เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการปะทะกันระหว่างกลุ่มวัยรุ่นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ว่าช่วงเวลา 20.30 น. กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอนกำลังถอยเข้าไปปักหลักหลังแนวตู้คอนเทเนอร์ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ออกจากบริเวณแฟลตดินแดง มารวมตัวกันอีกครั้งบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง โดยมีการจุดระเบิดเพลิงและเผาบริเวณกลางถนน

จากนั้น เวลา 21.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาจากบริเวณแฟลตดินแดงปักหลัก จุดประทัดและไปป์บอมบ์ เป็นระยะๆ ขณะเดียวกันมีกำลังเจ้าหน้าที่บางส่วน หน่วยเคลิ่อนที่เร็วได้ออกมาจากอนุสาวรีย์ เพื่อมายังสามเหลี่ยมดินแดง และเลี้ยวซ้ายไปยังถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งทางผู้ชุมนุคิดว่าจะมีการจับกุม จึงถอยร่นไป พร้อมทั้งได้มีการจุดพลุไฟ เข้าใส่เจ้าหน้าที่ที่ขับผ่าน ซึ่งบริเวณตรงนั้นมีกลุ่มผู้สื่อข่าวปักหลักทำข่าวอย

ู่

ช่วงเวลา 21.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ชุดเคลื่อนที่เร็วของตำรวจควบคุมฝูงชนดำเนินจรยุทธ์ด้านการกดดันผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง ด้วยการนำกำลังประมาณ 30 นาย ขึ้นรถกระบะจากถนนวิภาวดีฝั่งขาเข้ากำลังเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทาง รพ.ทหารผ่านศึก ปรากฏว่า มีผู้ชุมนุมซึ่งปักหลักอยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม ทิศทางมุ่งหน้าแยกแม่พระ จุดพลุไฟข้ามมาใส่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผลให้มีผู้สื่อข่าวได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ ฉัตรอนันต์ ฉัตรอภิวัน อายุ 27 ปี ผู้สื่อข่าวโพสต์ทูเดย์ ถูกพลุผู้ชุมนุมบาดเจ็บมือซ้ายเหวอะ และ นายวราพงศ์ น้อยทับทิม อายุ 37 ปี ช่างภาพเครือเนชั่น ฟกช้ำที่มือขวา เบื้องต้นทีมพยาบาลและแพทย์ที่อยู่ในพื้นที่ได้ช่วยกันทำแผลและดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บจนอาการดีขึ้น ส่วนผู้ชุมนุมยังคงจุดพลุ ประทัด และเผาเชื้อเพลิงอยู่บนท้องถนนเป็นระยะๆ

ต่อมาเมื่อเวลา 22.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณแยกดินแดง ถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงปักหลักต่อเนื่อง และนำกล่องกระดาษมาวางซ้อนกันแล้วจุดไฟเผาบนถนนดังกล่าว รวมถึง ขว้างปาประทัด และตะโกนยั่วยุด่าทอเจ้าหน้าที่ที่ตั้งแนวกั้นอยู่บริเวณหน้าโรงพยาบาลทหารผ่านศึกเป็นระยะ

จนกระทั่งในเวลา 22.50 น. ทางเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนรถออกจากจุดดังกล่าว ขณะที่ผู้ชุมนุมต่างพากันแยกย้ายออกจากพื้นที่ และไปรวมกลุ่มที่บริเวณหน้าปากซอยแฟลตดินแดง 1 พร้อมทั้งจุดประทัดดังเป็นระยะเช่นเดิม.