เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 66 ที่สำนักงานใหญ่ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ นางประพิณ รุจิรวงศ์ นางสิริวรรณ พันธุ์ปรีชากิจ และนายปารเมศ เหตระกูล กรรมการบริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารบริษัท สี่พระยาการพิมพ์ จำกัด พนักงานกองบรรณาธิการ กองจัดการ และกองผลิต ร่วมประกอบพิธีทำบุญครบรอบ 59 ปี หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ โดยมี สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร และคณะสงฆ์ รวม 9 รูป ทำพิธีสวดมนต์และพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล

สำหรับการจัดงานครบรอบ 59 ปี ก้าวเข้าสู่ปีที่ 60 หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ในปีนี้ คณะกรรมการบริหาร ได้ตั้งปณิธานในฐานะสื่อมวลชนเพื่อประชาชนคนไทย ตามที่ นายแสง เหตระกูล ผู้ก่อตั้งได้ตั้งปณิธานไว้เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2507 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันในทุกมิติทั้งสื่อหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ในรูปแบบแพลตฟอร์มต่างๆ เราได้นำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทย สังคมไทย ประเทศไทย อย่างมุ่งมั่น ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ด้านสังคมที่เป็นเรื่องใกล้ตัวประชาชน และข้อมูลข่าวสาร ด้านเศรษฐกิจ ที่ก็เป็นเรื่องสำคัญของประชาชน โดยทางเดลินิวส์ ได้นำเสนอผ่านทางหน้าข่าวต่างๆ ในหนังสือพิมพ์และหมวดข่าวต่างๆ ทางออนไลน์อย่างครบครัน

ขณะที่ ด้านการเมือง นั้น เดลินิวส์ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นสื่อที่มีความเข้มข้นถึงเครื่องอย่างเป็นกลางและยืนหยัดอยู่ข้างประชาชนอย่างเหนียวแน่น และในปี 2566 ที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง ส.ส. กำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ทางเดลินิวส์ ก็ได้ชูธงนำขบวนเปิดหน้าข่าว หมวดข่าวเกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างเข้มข้นถึงเครื่องเช่นกัน อีกทั้งล่าสุดทางเดลินิวส์ ยังได้มีการร่วมมือกับพันธมิตรสื่อ คือ “เครือมติชน” เพื่อจัดทำ “โพลเลือกตั้ง” ซึ่งนี่ก็ถือเป็นอีกรูปแบบการเป็นกระบอกเสียงของคนไทย ที่สะท้อนไปถึงบรรดานักการเมืองในการที่จะอาสาเป็นตัวแทนประชาชนเข้าไปทำหน้าที่บริหารประเทศในฝ่ายต่างๆ ที่ก็จะต้องเป็นไปเพื่อประชาชนโดยรับฟังเสียงประชาชน

ทั้งนี้ ผู้บริหารหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์ ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยการถือว่าเป็นอีกหนึ่งพันธกิจสำคัญ เพราะเรื่องนี้มิใช่เพียงเรื่องของสภาพแวดล้อมหากแต่มีความเกี่ยวพันกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ โดยให้สื่อหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์นำเสนอข้อมูลข่าวสารทั้งเพื่อการฟื้นฟู อนุรักษ์ พัฒนา ตลอดจนอาสาเป็น กระบอกเสียงให้ประชาชน ภาคส่วนต่างๆ ทั้งเพื่อเรียกร้อง เสนอแนะ ให้ข้อมูลที่ควรรู้ รวมถึงยังเป็นกำลังใจให้กับประชาชน ทุกๆ ภาคส่วน ที่มีการดำเนินการฟื้นฟู-อนุรักษ์-พัฒนา เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเพื่อคุณภาพชีวิตคนไทย และเพื่อสังคมไทย

สำหรับการจัดงานวันครบรอบนั้นมีคณะบุคคล หน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน รวมถึงคณะศิลปินดารานักแสดง และอื่นๆ มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่งและต่อเนื่อง อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ประธานและผู้ก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. ผู้แทน พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) และในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และ ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เป็นต้น

ทั้งนี้ นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีน ได้ระบุว่า หนังสือพิมพ์เดินทางมายาวไกล 59 ปี สร้างคุณูปการ สร้างประโยชน์กับสังคมคนไทยมากมาย มีบทบาทเคียงข้างประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ความเป็นธรรมต่อสู้เพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของประชาชนโดยตลอดต้องขอชื่นชม ประวัติศาสตร์หนังสือพิมพ์เคยถูกคุกคาม ไม่เป็นธรรมมาหลายครั้ง แต่หนังสือพิมพ์ก็นำเสนอข่าวในความยุติธรรม สิทธิเสรีภาพในประชาธิปไตย และให้ความรู้เรื่องข่าวสารการเมืองการปกครองมากมาย มีรายงานข่าวต่างประเทศ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องครบรอบ 48 ปี สัมพันธ์ไทย-จีน ในอดีตหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ได้รายงานอย่างยิ่งใหญ่ เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนมาก ซึ่งในโอกาสครบรอบ 59 ปีเดลินิวส์ จึงขอเคารพและคารวะ ในฐานะที่เป็นหนังสือพิมพ์ยืนหยัดนำเสนอความจริงเคียงข้างคนไทยอย่างมั่นคง.