สมัยคุมไบรท์ตัน เกรแฮม พอตเตอร์ ได้รับการยกย่องอย่างมาก ไม่ใช่แค่ผลงานที่ดีเกินตัว แต่ทีมยังเล่นเกมบุกได้มีประสิทธิภาพ จึงไม่น่าแปลกที่จะเข้าตา ทอดด์ โบห์ลี ดึงไปเป็นผู้จัดการทีมเชลซีคนใหม่แทน โธมัส ทูเคิล แถมยังติดอันดับกุนซือค่าจ้างแพงลำดับ 3 ของอังกฤษ ฟันค่าจ้างปีละ 12 ล้านปอนด์ เป็นรองแค่ เจอร์เกน คลอปป์ 15.7 ล้านปอนด์ และ เปป กวาร์ดิโอลา 19.7 ล้านปอนด์
แต่อนิจจา ช่วงเวลาทำงานนั้นแสนสั้น แค่ 7 เดือนเศษ ก็โดนไล่ออกไปเสียแล้ว
มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา?

แน่นอนว่าอันดับบนตารางมันฟ้อง ผลงานน่าผิดหวัง ความหงุดหงิดของแฟนบอล ทั้งที่ซื้อนักเตะราคาระดับพรีเมียมแทบทั้งสิ้น แต่เบื้องหลังนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?
ย้อนไปก่อนจะปลด ทูเคิล บอร์ดใช้เวลาครึ่งวัน จึงได้ข้อสรุปว่าถึงเวลาเปลี่ยนแปลง เลือกใช้กุนซืออายุน้อยเป็นแผนการในระยะยาว พอตเตอร์ ถูกเลือกเข้ามา แต่ท้ายที่สุดเชลซีไม่ทีท่าจะฟื้นเสียที ความพ่ายแพ้ต่อ วิลลา เป็นฟางเส้นสุดท้าย
“แกไม่รู้ว่าแกกำลังทำอะไรอยู่” เสียงตะโกนดังก้องไปทั่ว สแตมฟอร์ด บริดจ์ 24 ชั่วโมงต่อมา พอตเตอร์ ถูกไล่ออก

ดิ แอธเลติก ได้พูดคุยกับแหล่งข่าวใกล้ชิด โดยไม่สามารถเผยชื่อแหล่งข่าว ได้ข้อสรุปมาว่า
- ในขณะที่ความสัมพันธ์กับลูกทีม พอตเตอร์ ไม่เคยเป็นศัตรูกัน แต่ผู้เล่นซีเนียร์คนสำคัญกลับรู้สึกไม่เชื่อถือมากขึ้น และรู้สึกไม่ลงรอย
- บางคนเรียกลับหลังว่า “แฮร์รี” หรือ “ฮอกวอตส์” การจัดทีมบางครั้งสร้างความสับสน
- ทีมชุดใหญ่ของเชลซีเยอะมาก จนผู้เล่นบางคนต้องนั่งบนพื้นระหว่างการประชุมทีม ในขณะที่บางคนต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าบริเวณทางเดิน
- การฝึกซ้อมบางช่วงต้องเป็น 9 ต่อ 9 นอกเหนือจาก 11 ต่อ 11 ตามปกติ เพราะขนาดทีมใหญ่มากไป
- ทอดด์ อาจเป็นจุดสนใจ แต่ เบห์ดัด เอกบาลี เป็นผู้มีอำนาจตัวจริงที่หลังฉาก บางคนมองว่า การปรากฏตัวของเจ้าของทีม การเฝ้าดูโดยตรงจากข้างสนามในการฝึกซ้อมบ่อยครั้งจนน่าตกใจ แม้ว่า พอตเตอร์ จะไม่มีปัญหาก็ตาม
- ต่างงุนงงกับคำพูดของ พอตเตอร์ ที่พูดในระหว่างคุยกับกลุ่มแฟนบอลว่า จะพยายามชนะ f แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นการใช้คำหยาบที่ขัดต่อบุคลิกของเจ้าตัว
- จากข้อมูลตัวเลขพบว่า ทีมไม่ได้มีความคืบหน้าหรือพัฒนาการที่ดีขึ้นเลย

พอตเตอร์ วัย 47 ปี ไม่เคยไม่เป็นที่นิยมในห้องแต่งตัวของ เชลซี เขาเป็นคนน่าคบ ผู้เล่นพบว่าเขาเข้าถึงได้ง่าย ตรงกันข้ามกับผู้จัดการทีมหลายคนก่อนหน้านี้ เจ้าของก็เข้ากับเขาได้ดี ผู้เล่นส่วนใหญ่ชื่นชม ที่เขาทำงานในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แม้กระทั่งสถานการณ์พิเศษที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ความคิดเหล่านั้นเริ่มสั่นคลอน เนื่องจากผลลัพธ์แย่ลง ทัศนคติจึงได้เปลี่ยนไประยะหนึ่งแล้ว แนวทางที่เข้าอกเข้าใจ กลายเป็นสิ่งที่ผู้เล่นบางคนตั้งคำถามว่า เขาดีเกินไป และไม่โหดเหี้ยมพอหรือไม่ ไม่มีใครเล่นบทตำรวจเลวเพื่อรักษาสมดุล
แหล่งข่าวบอกว่า พอตเตอร์ ยังถามคนอื่นว่า นักเตะคิดรู้สึกยังไงกับเขา ซึ่งความกังวลแบบนี้ ถูกมองว่าเป็นสัญญาณของความอ่อนแอ

ชื่อเล่น “แฮร์รี” และ “ฮอกวอตส์” มีนัยของการเยาะเย้ย เขาไม่ได้รับความเคารพในระดับเดียวกันกับกุนซือคนก่อนหน้า
หลายคนในทีมมองว่า พอตเตอร์ เป็นแค่ “เยส แมน” เขาแค่ทำตามคำสั่งของเจ้านาย ปฏิบัติตามทุกอย่างที่ โบห์ลี และ เอกห์บาลี วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ย้ายทีม หรือแม้แต่การเลือกทีม แม้จะมีการปฏิเสธ แต่ข่าวลือนั้นไม่ได้สร้างผลดีเลย
ยังมีการย้ายทีมที่สร้างความวุ่นวายทั้งเข้าและออก ที่ทำให้ ค็อบแฮม แตกเป็นเสี่ยงๆ และสงสัยกันว่า ทำไมหัวหน้าโค้ชถึงยอมทำทุกอย่าง โดยเฉพาะการเซ็นสัญญาดาวรุ่งประสบการณ์ค่อนข้างน้อย นักเตะไม่ได้เหมาะสมตามระบบโค้ช พอตเตอร์ ถูกทิ้งให้อยู่กับกองกลางตัวรุกและปีกที่โรยรา และไม่มีศูนย์หน้าตัวกลางตามธรรมชาติ
ผู้เล่นรู้เกี่ยวกับการไล่ออกในเย็นวันอาทิตย์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย บางคนออกไปทานอาหารเย็น ขณะที่การโทรฯ และข้อความ WhatsApp เด้งแจ้งขึ้นมา หลายคนไม่ประหลาดใจ เพราะผลการแข่งขันแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม มีชัยชนะแค่ 3 นัดจาก 17 นัด ในทุกรายการ จนถึงต้นเดือนมีนาคม