นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงตอนหนึ่งต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่องการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้พยายามหาทางฟื้นการท่องเที่ยวผ่านการทำพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศแบบไม่มีการกักตัว โดยที่ผ่านมาได้เปิดไปแล้วในระยะแรก และในระยะที่ 2 เตรียมเปิดเพิ่มอีก 5 พื้นที่ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ คือ กรุงเทพฯ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ ส่วนในระยะที่ 3 จะเปิดเพิ่มอีก 21 จังหวัด เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งจะครอบคลุมเกือบทั้งประเทศ

สำหรับ 21 จังหวัดล่าสุดที่เตรียมเปิดเป็นพื้นที่นำร่องเพิ่มเติม ประกอบด้วย พื้นที่ภาคเหนือ คือ จังหวัดลำพูน แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงราย และสุโขทัย พื้นที่ภาคอีสาน คือ จังหวัดอุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และอุบลราชธานี พื้นที่ภาคตะวันตก คือ จังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี พื้นที่ภาคตะวันออก คือ จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด พื้นที่ภาคกลาง คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ภาคใต้ คือ จังหวัดระนอง ตรัง สตูล สงขลา และนครศรีธรรมราช

พร้อมกันนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังวางแผนการในระยะต่อไปอีก โดยอาจเปิดในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ผ่านวิธีการจับคู่เดินทางเที่ยวระหว่างประเทศ หรือ ทราเวลบับเบิล เริ่มจากประเทศเพื่อนบ้านกับจังหวัดชายแดน เช่น กัมพูชา กับจังหวัดสุรินทร์ ที่ด่านช่องจอม และจังหวัดสระแก้ว ที่ด่านอรัญประเทศ รวมทั้งเกาะกงกับจังหวัดตราด ส่วนเมียนมา เชื่อมโยงกับการเปิดด่านที่แม่สอด จังหวัดตาก ด่านท่าขี้เหล็ก จังหวัดเชียงราย และเกาะสอง จังหวัดระนอง ขณะที่ สปป.ลาว มีจังหวัดนครพนม หนองคาย และมุกดาหาร สุดท้ายที่มาเลเซีย คือ ด่านเบตง จังหวัดยะลา ด่านสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ด่านนอก-ปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา และด่านวังประจัน จังหวัดสตูล เบื้องต้นจะเปิดภายในวันที่ 1-15 ม.ค.65

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การดำเนินการต่อจากนี้เพื่อให้ได้ตามแผนก็ต้องร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานในการเปิดประเทศด้วย แต่การจะเปิดประเทศนี้ได้ยืนยันว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีความพร้อม โดยเฉพาะการจัดสรรวัคซีนมาฉีดให้กับคนในพื้นที่นำร่องให้ได้เกิน 70% ของประชากรทั้งหมด และการดำเนินการทั้งหมดผ่านการเห็นชอบจากทางกระทรวงสาธารณสุขก่อน จากนั้นจึงทำการเปิดแบบระยะต่อระยะ ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยเองนั้น คงเริ่มเปิดได้ในวันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป เพราะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว ทั้งภาคเหนือ และภาคใต้ฝั่งอันดามัน