เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.อุทัยธานี ตลอดในช่วงเดือน เม.ย. ทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจห้างร้าน ต่างประสบกับราคาค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และเกินเท่าตัวกันทุกที่ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้เกิดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างแอร์และพัดลมเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ประชาชนต้องแบกรับจ่ายค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะภาคธุรกิจห้างร้านค้าต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าเป็นกำลังผลิต ต่างได้รับผลกระทบดังกล่าวนี้สูงด้วยเช่นกัน อย่างที่ โรงงานผลิตน้ำดื่ม ตรา 4P ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการผลิต ที่ค่าไฟฟ้าในเดือน เม.ย. นี้ ปรับเพิ่มขึ้นไปเกือบเท่าตัว จากเดิมที่เคยจ่ายค่าไฟฟ้าที่เดือนละ 3 หมื่นกว่าบาท ถึง 4 หมื่นต้นๆ แต่เดือนนี้ต้องชำระค่าไฟฟ้าที่ 5 หมื่นกว่าบาท แม้ที่โรงน้ำจะมีพลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาช่วยลดการใช้ไฟฟ้าด้วยแล้วบางส่วนก็ตาม

โดย นายวันชัย ชีวะระ เจ้าของโรงน้ำดื่ม 4P เปิดเผยว่า ปกติแล้วที่โรงน้ำนั้นจะเสียค่าไฟฟ้าที่เดือนละประมาณ 38,000 กว่าบาท สูงสุดที่เดือนละประมาณ 42,000 กว่าบาท เพราะที่โรงงานจะมีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ร่วมด้วย ซึ่งรวมๆ แล้วจะสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าไปได้ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน แต่เดือนนี้ค่าไฟฟ้ามียอดชำระเพิ่มขึ้นสูงกว่าทุกเดือน อาจจะด้วยกำลังผลิตช่วงหน้าร้อนที่เพิ่มขึ้นด้วย โดยยอดชำระค่าไฟฟ้าเดือนนี้ บิลแรกอยู่ที่ 49,187.57 บาท แบ่งเป็นค่า Ft ที่ 12,957.51 บาท ค่าภาษี 3,217.29 บาท และบิลที่ 2 มียอดชำระที่ 5,290.30 บาท ค่า Ft 4,944.21 บาท ค่าภาษี 346.09 บาท รวมแล้วค่าไฟเดือนนี้ทั้ง 2 บิลนั้น อยู่ที่ 54,477.87 บาท ซึ่งถ้าหากไม่ได้มีพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยด้วยแล้วนั้น ก็คาดว่าจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนนี้ถึง 6 หมื่นกว่าบาทเลยทีเดียว รวมๆ แล้วค่าไฟฟ้าที่จ่ายไปเดือนนี้ เท่ากับยอดขายน้ำดื่มถึง 4,539 ถัง

นายวันชัย เผยต่อว่า ตอนนี้ที่โรงผลิตน้ำดื่ม น้ำยังไม่มีการปรับขึ้นราคาขายน้ำแต่อย่างใด เพราะก่อนหน้านี้มีการขอปรับขึ้นมาแล้ว จากเดิมน้ำดื่มแบบถังนั้นจะอยู่ที่ราคาถังละ 8 บาท แต่ด้วยค่าไฟฟ้าที่ปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจึงมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นมาเป็นถังละ 10 บาท และช่วงที่ผ่านมาค่าไฟฟ้าและน้ำมันมีปรับขึ้นอีกรอบ จึงทำให้ทางเราต้องปรับราคาขายน้ำเป็นถังละ 12 บาท มาจนถึงปัจจุบัน และยังคงตรึงราคานี้ไว้ไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นอีก เพราะกังวลว่าจะเป็นการผลักภาระให้ลูกค้า ทุกวันนี้ที่โรงงานนั้นอาศัยเน้นได้ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้โรงงานยังคงไม่ขาดทุนและเดินหน้าต่อไปได้ แม้สภาวะช่วงนี้จะได้กำไรลดลงมากกว่าเดิม แต่ยังคงเพียงพอต่อการจ่ายค่าแรงลูกน้องได้ ก็ถือว่าโอเคมากแล้ว เพราะทำใจยอมรับว่าเป็นช่วงที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เมื่อถึงเวลาที่ต้นทุนการผลิตลดลงมา เราก็จะกลับมามีกำไรที่ดีขึ้นไปตามลำดับ ส่วนการปรับราคาขายนั้น ถ้าถึงช่วงที่ต้นทุนการผลิตลดลง เราก็จะปรับลดลงตามไปด้วยเช่นกัน ไม่มีการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างแน่นอน

“ตลอดเวลาที่ผมสร้างโรงงานผลิตน้ำดื่มมาเกือบ 10 ปี มั่นใจว่า ไม่เคยเอาเปรียบลูกน้องและลูกค้า รวมถึงเมื่อมีโอกาสก็ช่วยเหลือแบ่งปันกลับคืนให้กับส่วนรวมและชุมชนบ้านเกิดของผมมาตลอด ชาวบ้านใน ต.ทุ่งโพ และ ต.เขาบางแกรก หากคนไหนที่ครอบครัวมีรายได้น้อย เมื่อมีการจัดงานศพ ผมก็จะมอบน้ำดื่มที่โรงงานให้ไปใช้ภายในงานฟรีๆ เชื่อว่า การแบ่งปันและการให้เป็นเรื่องที่ดี การทำบุญเกี่ยวกับน้ำนั้น จะช่วยทำให้ชีวิตมีความร่มเย็นเป็นสุข” นายวันชัย กล่าว