เมื่อวันที่ 18 พ.ค. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนที่อัยการสูงสุดมอบหมายได้มีความเห็นควรสั่งฟ้อง นายอุปกิต ปาจรียางกูร วุฒิสมาชิก ในความผิดฐานเป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและ ร่วมกันฟอกเงิน เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่ สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีส่วนร่วมกระทำการใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าวและได้นำตัวนายอุปกิต พร้อมกับสำนวนการสอบสวน มาส่งให้กับสำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อเสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งคดีต่อไปแล้วสำนักงาน คดียาเสพติด ได้นัดฟังคำสั่งอัยการสูงสุด ในวันที่ 26 ก.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ หัวหน้าคณะทำงานร่วมสอบสวนเเละคณะพนักงานสอบสวน บช.ปส.3 ได้นำตัวนายอุปกิตพร้อมสำนวนการสอบสวน ที่พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องกว่า 79 เเฟ้มมายื่นด้วยตนเอง

ป้องเกียรติ! ‘สว.อุปกิต’ ฟ้องอีก ‘2พิธีกรดัง’ หมิ่นโยงฟอกเงินแก๊งค้ายา

สำหรับคดีนี้ นายอุปกิต ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์พัวพันกับขบวนการยาเสพติดและการฟอกเงินกับนายทุน มิน หลัด หรือ ตุน มิน ลัต ชาวเมียนมาที่ถูกตำรวจไทยจับเรื่องในเรื่องเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและฟอกเงิน เมื่อ 17 ก.ย. 2565 ซึ่งอำนาจการสอบสวนเป็นของอัยการสูงสุดซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนในความผิดนอกราชอาณาจักรตาม ป.วิอาญามาตรา 20 จึงได้มอบหมายให้สำนักงานอัยการสอบสวนกับ บช.ปส.3 ร่วมกันเป็นพนักงานสอบสวน ซึ่งคณะพนักงานร่วมสอบสวนได้ทำการสอบสวนในหลายประเด็น รวมถึงประเด็นที่มีการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาก่อนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง เสนอไปยังอัยการสูงสุดผ่านทางสำนักงานอัยการคดียาเสพติดเพื่อพิจารณามีคำสั่งทางคดีต่อไป.