เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนออกหา “ต้นกะทือ” หรือ “หัวกะทือ” ที่งอกขึ้นเองในป่าช้าในพื้นที่ต่าง ๆ ของ จ.ตรัง มาขายส่งในตลาด สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้ที่พบเห็น เนื่องจากบุคคลดังกล่าว ไม่ได้มีความเกรงกลัวผีแต่อย่างใด ภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบยังป่าช้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ตรัง พบ นายสุเทพ ตรีทอง อายุ 56 ปี ชาวตำบลบางรัก กำลังออกหาต้นกะทือในป่าช้า พื้นที่กว่า 5 ไร่ ซึ่งเจ้าตัวะรุบว่า กะทือส่วนใหญ่จะนำไปรับประทานเอง ส่วนที่เหลือจะนำไปขายส่งให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดกิโลกรัมละ 60 บาท ซึ่งแต่ละวันจะหาหน่อกะทือได้ประมาณ 40-50 กิโลกรัม สร้างรายได้ประมาณ 400-500 บาท ต่อวัน

สำหรับหน่อกะทือในพื้นที่ จ.ตรัง จะงอกขึ้นเองปีละ 1 ครั้ง ครั้งละ 2-3 เดือน คือในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม เท่านั้น หากเลยกำหนดเวลานี้ไปแล้ว หน่อกะทือจะมีแต่เหง้าฝังอยู่ใต้ดิน ช่วงนี้จึงมักจะเห็นมีขายกันแทบทุกตลาด และเป็นโอกาสทองของ นายสุเทพ ที่พกเพียงมีดพร้าไว้ถางหญ้าและแซะเอาหัวกะทือขึ้นมา โดยนายสุเทพจะออกหาต้นกะมือเพียงลำพัง ใช้เวลาวันละ 2-3 ชั่วโมง ก็จะได้หัวกะทือกลับบ้านเป็นกระสอบ แต่จะต้องนำไปตัดแต่งล้างทำความสะอาด ก่อนจะนำไปขายในตลาด ในส่วนของความเชื่อเรื่องภูติผี หรือสิ่งลี้ลับนั้น นายสุเทพ เล่าว่า หาหัวกะทือขายหลายปีแล้ว ไม่เคยพบเจอแต่อย่างใด โดยก่อนจะเข้าไปในป่าช้า ได้ยกมือไหว้บอกกล่าวกับเจ้าที่เจ้าทาง รวมทั้งเจ้าของหลุมเสมอ หลังจากเก็บหัวกะทือได้นำไปประกอบอาหาร ปรากฏว่าหัวกะทือในป่าช้า จะมีรสชาติเผ็ดมัน และหวานหอมกว่าที่อื่น ๆ

สำหรับหน่อกะทือ หรือหัวกะทือ มีสรรพคุณทางยา ช่วยแก้ไข้ตัวร้อนแก้เลือดกำเดาไหล บำรุงธาตุในร่างกาย แก้อาการเบื่ออาหาร บำรุงธาตุไฟ ผอมแห้งเป็นยาบำรุงกำลัง แก้อาการแน่นหน้าอก ช่วยปัสสาวะและอื่น ๆ โดยนำมาทำอาหารได้หลายเมนู ทั้งแกงกะทิ แกงคั่วปลาย่าง และแกงที่มีรสชาติเผ็ดร้อนต่าง ๆ.