จากกรณี เฟซบุ๊กแฟนเพจ “เจ๊ม้อยv plus” โพสต์คลิปเหตุการณ์ ตำรวจชั้นประทวน 2 นาย เข้าไประงับเหตุทะเลาะวิวาททำลายข้าวของในครอบครัว และ ทำร้ายร่างกาย แต่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ กลับถูกชายคนหนึ่ง ด่าด้วยคำหยาบคาย พร้อมดูถูกว่าเป็นชั้นประทวน แต่ตัวเองจบปริญญาตรี อีกทั้งยังตบกล้องที่ติดอยู่บนหมวกตำรวจจนหลุด

โดยเพจ”เจ๊ม้อยv plus” ระบุข้อความว่า “#ไม่ควรดูถูก ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง และมีความสามารถที่แตกต่างกันทุกคนเลือกในอาชีพที่ตนเองรักและถนัด ปราจีนบุรี ท่านใดมี ว.8 มากกว่านี้บ้างครับ อยู่ยากแล้วตำรวจไทย รับแจ้งเหตุ 191 ไประงับเหตุถูกดูหมิ่น ถูกทำร้ายบาดเจ็บ ไร้เจ้านายเหลียวแล!! เหตุเกิดในท้องที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ตำรวจอีกนายไม่มีภาพที่โดนชกต่อย หน้าตาปูดบวม คลิปกล้องหน้าหมวกสายตรวจ” ซึ่งหลังจากคลิปดังกล่าว ถูกเผยแพร่ไปก็ทำให้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางนั้น

ชมคลิป

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี พ.ต.ท.สิริบัญชา ขอบใจ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองปราจีนบุรี ชี้แจงถึงคลิปดังกล่าวว่า เป็นคลิปหน้าบ้านเช่าห้องแถว ปูนชั้นเดียว ในซอยตรอกศึกษา ถนนราษฎรดำริ ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี พบชายถอดเสื้อนุ่งกางเกงขาสั้น ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี กำลังใช้คำด่าดูถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน 2 นาย ที่กำลังเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุ โดยกำลังด่า ส.ต.อ.ยงยุทธ ถนอมลาบ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองปราจีนบุรี ในขณะที่ ด.ต.ภาณุภัทร อินนอก ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองปราจีนบุรี ปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งหัวหน้าสายตรวจ กำลังบันทึกภาพ ก็ถูกตบกล้องจนหล่น

พ.ต.ท.สิริบัญชา กล่าวต่อว่า เหตุดังกล่าว เกิดเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ช่วงกลางดึกเวลา 23.40 น. ชุดสายตรวจได้รับแจ้งว่ามีคนอาละวาดทำลายข้าวของและทำร้ายร่างกาย จึงเดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว ในตรอกศึกษา ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี แยกจากถนนราษฎร์ดำริ ซอย 4 พบครอบครัวที่เกิดเหตุ รวม 3 คน รวมถึงผู้ก่อเหตุคือนายสุรัตน์ อายุ 35 ปี ได้ออกมาด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตามคลิปภาพที่ถ่ายได้จากกล้องวงจรปิดหน้าหมวกของตำรวจ, กล้องติดหน้าอก และ ด.ต.ภาณุภัทร อินนอก ตำแหน่งหัวหน้าสายตรวจได้ใช้มือถือทำการถ่ายรูป ถ่ายคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระหว่างผู้ก่อเหตุได้ตะโกนด่าหยาบคาย จากนั้นก็มาทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย

พ.ต.ท.สิริบัญชา กล่าวต่อ ตำรวจจึงตะโกนบอกให้ญาติของนายสุรัตน์ ให้ออกมาช่วยว่าตำรวจทำร้ายร่างกาย แต่กลับกลายเป็นว่า ญาติ 2 คน คือ นายวิชาญ อายุ 50 ปี กับนายวิชัย อายุ 52 ปี ทั้งคู่เป็นน้าชายผู้ก่อเหตุแทนที่จะช่วยเหลือห้ามปราม หรือ แยกผู้ต้องหาออกไปกลับได้เข้าช่วยเหลือคนร้ายโดยช่วยฉุด-จับตำรวจ ขณะเดียวกัน นายสุรัตน์ ได้ตบ ต่อย เตะ เจ้าหน้าที่ คาดว่าคงไม่ชอบใจตำรวจอยู่ก่อนหน้าแล้ว จากที่เคยติดคุกข้อหาพยายามฆ่าและเพิ่งออกจากคุกมา

พ.ต.ท.สิริบัญชา กล่าวอีกว่า หลังเกิดหตุ ได้จับกุมตัว นายวิชาญ กับ นายวิชัย น้าของนายสุรัตน์ ได้แล้ว โดยแจ้งข้อหา ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลัง ส่วนของนายสุรัตน์ ทองใบ นั้นหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป หากจับกุมตัวมาได้ก็จะแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายและต่อสู้เจ้าพนักงาน จะมีการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้าน ด.ต.ภาณุภัทร อินนอก ผบ.หมู่ ป.สภ.เมือปราจีนบุรี กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุ เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว กำลังสอบถามว่า เป็นอย่างไร นายสุรัตน์ที่อยู่ในบ้านตะโกนด่ามาว่า “มึงมาทำ….อะไรไอ้…” ตนเลยบอกว่า “นายวิชาญ น้าคุณโทรฯ แจ้งเหตุ” นายสุรัตน์ ก็บอกว่า “เรื่องกู บ้านของกู” ตนเลยยกมือถือเข้าไปถ่าย จากนั้นนายสุรัตน์ ก็ตรงเข้ามาดันตัวติดกำแพง พร้อมญาติอีก 4-5 คน ตนเองได้รับบาดเจ็บมีแผลที่หลังมือ

ขณะที่ ส.ต.อ.ยงยุทธ ถนอมลาภ ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองปราจีนบุรี กล่าวว่า ตนเองถูกทำร้ายร่างกายทั้งต่อย เตะ ตบ มีแผลที่หน้า และ ลำคอ

ขอบคุณภาพและคลิปจากเพจ “เจ๊ม้อยv plus”