เมื่อวันที่ 30 พ.ค ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุด กรณีเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ปิดหมายประกาศตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แบบ ค.3, ค.4, ค.7 และ ค.10 ในอาคาร 3 หลังภายในบ้าน “บ้านสุขาวดี” ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี บุกรุกที่สาธารณะและมีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งอาคารที่มีการก่อสร้างยังไม่ได้เว้นระยะตามแนวร่นจากระดับน้ำทะเลในระยะ 20 เมตร ตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการดำเนินงานใหม่ในรอบที่ 2 หลังออกประกาศคำสั่งในครั้งแรกไปแล้ว แต่ทางบ้านสุขาวดี ในนามของบริษัท เฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี กระทั่งมีการพิจารณาว่า ประกาศคำสั่งเมืองพัทยายังไม่ครบองค์ประกอบ และเหตุผลในการรื้อถอนไม่ครบถ้วน จึงให้มีการดำเนินการออกคำสั่งใหม่นั้น

สำหรับอาคาร A ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่ก่อสร้างอยู่บนพื้นที่ดินสาธารณะขนาด 11 ไร่ 1 งาน โดยสร้างอาคารเป็นโครงเหล็ก 2 ชั้น 1 หลัง และป้ายโฆษณา 2 ป้าย แต่ผู้ถูกฟ้องให้เหตุผลว่า อาคารดังกล่าวตั้งอยู่พื้นที่งอกตามธรรมชาติ แต่เมืองพัทยามั่นใจว่า จากแนวเขตการรังวัดและภาพถ่ายทางอากาศ เป็นการบุกรุกพื้นที่สาธารณะอย่างแน่นอน จึงเป็นข้อพิพาทเพื่อรอผลการตรวจสอบ ซึ่งต่อมาศาลปกครองได้มีคำสั่งคุ้มครองเป็นการชั่วคราว กระทั่งที่สุด ศาลก็มีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองแล้ว เมืองพัทยาจึงเร่งเข้ามาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่อาคาร B และ C ซึ่งบ้านสุขาวดีแจ้งว่า เป็นอาคารที่น้ำท่วมไม่ถึงนั้น เมืองพัทยาได้ทำการรังวัดแนวเขตจากระดับน้ำทะเลสูงสุด แล้วพบว่า อาคารอยู่ในแนวที่มีการล่วงล้ำลำน้ำ โดยปัจจุบันได้มีการตัดและพื้นที่ของอาคาร C ไปแล้ว เพื่อลดพื้นที่ของอาคารไปแล้ว เพื่อให้อยู่ในระยะห่างจากทะเลตามกฎหมาย ส่วนอาคาร B นั้น ยังรอการดำเนินการอยู่ เนื่องจากการศาลยังให้การคุ้มครองอยู่

อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานทุกอย่างที่ทางบ้านสุขาวดีได้ส่งไปให้มีการพิสูจน์ทราบทางกระบวนการยุติธรรม จนล่าสุดมีคำสั่งยกเลิกการคุ้มครองอาคารหลังดังกล่าว ด้วยเป็นอาคารทีมีการปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร แม้ว่ากระบวนการพิสูจน์ทราบของที่ดินจะเป็นเช่นไร แต่ก็ต้องถือว่าอาคารที่ก่อสร้างโดยมิชอบ หรือได้รับอนุญาต ซึ่งศาลปกครองสูงสุดจึงได้พิจารณาไต่สวนแล้ว ก่อนจะยกเลิกการคุ้มครองอาคาร A จากนั้นได้มีการปิดหมายประกาศให้ทางบ้านสุขาวดีรื้อถอนเองภายใน 15 วัน

ล่าสุด นายสุริยา แก้วเขียว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร นายมารุต อุทัยวัฒนานนท์ วิศวกรโยธาชำนาญการ นายเกียรติศักดิ์ คงเขียว วิศวกรโยธาชำนาญการ นายตรวจเขต นายกฤษดาศักดิ์ เกตุจินดา นายช่างโยธา และเจ้าหน้าที่สำนักการช่างเมืองพัทยา นำกำลังบุคลากรกว่า 30 คน พร้อมเครื่องมือและเครื่องจักรหนัก อาทิ รถแบ๊กโฮ รถบรรทุก เดินทางมายังบ้านสุขาวดี เพื่อดำเนินการรื้อถอนอาคารดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเบื้องต้นได้ทำการรื้อแผ่นกระเบื้องพื้นเวที รวมทั้งสิ่งของต่างๆ ที่จัดวางไว้ และการตัดน้ำตัดไฟที่ใช้บนเวทีออกทั้งหมด โดยการดำเนินการดังกล่าวมีทนายความของบ้านสุขาวดีมาคอยสังเกตการณ์และแจ้งให้เมืองพัทยาชะลอเวลาการรื้อถอนไปก่อน เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินเกินความจำเป็น อีกทั้งปัจจุบันทางบ้านสุขาวดีก็เปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนแล้ว แต่เมืองพัทยาก็ยังดำเนินการไปตามขั้นตอนต่อไป เพียงการทุบรื้อดังกล่าวเป็นไปด้วยความละมุนละม่อม มีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ของบ้านสุขาวดีแจ้งว่า ขณะนี้เรื่องของที่ดินขนาด 11 ไร่ ที่เมืองพัทยาระบุว่าเป็นที่สาธารณะริมทะเลนั้น ปัจจุบันทางบ้านสุขาวดีได้ประสานเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรธรณี ทำการขุดเจาะชั้นดิน เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นที่งอกตามธรรมชาติหรือไม่ด้วย

นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร สำนักการช่างเมืองพัทยา กล่าวว่า อาคารที่มีปัญหาของบ้านสุขาวดีนั้น มีการต่อสู้ทางการปกครองระหว่างเมืองพัทยากับทางบ้านสุขาวดีอยู่เป็นเวลานาน ด้วยเมืองพัทยาทราบว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่สาธารณะ จึงสั่งระงับการใช้อาคาร และมีคำสั่งให้รื้อถอน แต่ทางบ้านสุขาวดีก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ จนล่วงเลยเวลาและใช้สิทธิตามขบวนการยุติธรรมครบแล้ว จึงถึงเวลาแล้วที่เมืองพัทยาต้องเข้ามาดำเนินการ มิเช่นนั้นทางเจ้าหน้าที่อาจกระทำผิดเข้าข่ายฐานละเว้นการปฏิบัติ ตามมาตรา 157 สำหรับขั้นตอนการรื้อถอนนั้น เบื้องต้นจะทำการรื้อถอนในลักษณะที่ไม่สามารถให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากอาคารได้เท่านั้น ซึ่งคิดว่าคงจะกินเวลาประมาณ 3-7 วัน จากนั้นก็จะทำการตั้งงบประมาณ เพื่อทำการว่าจ้างผู้รับเหมาเข้ามาทำการรื้อถอนอาคารหลังนี้ออกไป ด้วยพบว่าเป็นอาคารขนาดใหญ่และเกินกำลังที่เมืองพัทยาจะดำเนินการเองได้ ส่วนค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนนั้น ก็จะมีการเรียกเก็บจากทางบ้านสุขาวดีอีกครั้ง