หลังจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกแถลงเมื่อคืนวันที่ 10 มิ.ย. 66 ปฏิเสธกระแสข่าวว่าจะลงสมัครเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ สมัยที่ 3 ยืนยัน ยังไม่คิดลงสมัคร ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ซึ่งเรื่องด่วนคือประคับประคองวงการฟุตบอลไทยให้เดินหน้า

รายละเอียดคำแถลงมีดังนี้

“ตามกระแสข่าวที่ออกมาเรื่องการลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมฯ หลังจากหมดวาระ ขอเรียนอีกครั้งว่า ณ เวลานี้ยังคงไม่มีความคิดที่จะลงสมัคร และไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนในเวลาเช่นนี้​ อีกทั้งยังไม่มีการเปิดเผยโดยคนใกล้ชิดแต่อย่างใด​”

“ภารกิจด่วนและสำคัญ ณ ตอนนี้คือการประคับประคองและทำอย่างไรให้ฟุตบอลไทยเดินหน้าต่อไปได้ ตอนนี้เราต้องพยายามสนับสนุนสโมสรให้มากที่สุด ทำให้วงการฟุตบอลดำเนินงานไปได้ในทุกๆ องค์ประกอบกับช่วงที่ยากลำบากนี้ให้ได้ ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าพฤติกรรมการชมและดูคอนเทนต์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ซึ่งก็จะเกี่ยวข้องกับความคุ้มค่า คุ้มทุน ของผู้ถือลิขสิทธิ์ที่จะไปต่อยอดหารายได้ เราเองก็ต้องการสนับสนุนสโมสรให้มากที่สุด แต่ก็ต้องช่วยกันให้เดินไปได้ทุกภาคส่วน”

“อีกภารกิจที่สำคัญ คือ การติดตามผลการดำเนินงานโครงการต่างๆ ที่ทำร่วมกับเอเอฟซี และฟีฟ่า ซึ่งสมาคมฯ กำลังดำเนินการส่งเรื่องของบประมาณสนับสนุนในการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลครบวงจร ที่หัวหิน โดยอยู่ระหว่างการพิจารณา ก็ขอให้เราทำสำเร็จเหมือนกับการก่อสร้างที่ทำการสมาคมแห่งใหม่ ซึ่งดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว”

“ผมยืนยันว่าไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง และยังคงไม่คิดเรื่องลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล โดยขอโฟกัสการทำงานเพื่อวางรากฐานให้ฟุตบอลไทยเข้มแข็ง แก้ไขปัญหาต่างๆ ในช่วงเวลาที่เหลือ เพื่อวันข้างหน้าคนที่เข้ามาจะได้สานงานต่อได้ทันที และยืนยันว่ายินดีสนับสนุนผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีความตั้งใจ และมีศักยภาพพร้อมที่จะเข้ามาสานงานบริหารฟุตบอลไทย”

สำหรับแถลงดังกล่าว นอกจากเผยแพร่ให้สื่อมวลชนแล้ว ยังเผยแพร่ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ Fair ของ พล.ต.อ.สมยศ ซึ่งมีแฟนบอลไปคอมเมนต์หลากหลาย อาทิ

“ขอบคุณท่านที่พาบอลไทยออกจากยุคลับลวงพราง”

“ทำดีแล้วคับ อบรมโค้ช สถานที่ทำการ VAR จัดการลีก มืออาชีพในด้านการจัดการ”

“เชื่อเถอะครับท่านให้คนอื่นทำเถอะ ผมงานพิสูจน์แล้วมันไม่ perfect เท่าไหร่ครับ ผมเข้าใจท่านอยากพัฒนาแต่ผมคิดว่าความสามารถท่านมีแค่นี้ครับ”

“แค่คิดก็ช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านแล้ว”

“อย่าอยู่ให้คนด่าเลยสงสารท่าน หลายสิ่งที่พัฒนา ไม่มอง จ้องจะด่าอย่างเดียว”

“พอเถอะ พอก่อน พอได้แล้ว”