สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ว่า รายงานโดยสถาบันวิจัยสันติภาพแห่งออสโล ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่กรุงออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ ระบุว่า ความรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นในเมียนมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสะสมอย่างน้อย 6,337 ราย ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. 2564 ซึ่งเป็นวันรัฐประหาร จนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2565 ซึ่งเป็นที่มีการรวบรวมข้อมูลครั้งล่าสุด และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 2,614 คน
รายงานจำแนกด้วยว่า การเสียชีวิตของประชาชนอย่างน้อย 3,003 ราย เชื่อมโยงกับรัฐบาลทหารและตำรวจ ส่วนการเสียชีวิตของประชาชนอีกอย่างน้อย 2,152 ราย เกี่ยวข้องกับกองกำลังฝ่ายต่อต้าน
News from #Myanmar | More than 6,000 civilians were killed in Myanmar in the first 20 months after the February 2021 military coup, a report published on Tuesday by the Peace Research Institute of Oslo said: https://t.co/jfZIKyRDCq
— CSIS Southeast Asia (@SoutheastAsiaDC) June 13, 2023
อีกด้านหนึ่ง สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (โอซีเอชเอ) รายงานว่า รัฐบาลทหารเมียนมาเพิกถอน ใบอนุญาตการเดินทางและการลงพื้นที่ ของเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ทั้งของยูเอ็น และจากหน่วยงานอีกหลายแห่ง ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากอิทธิพลของไซโคลน “โมคา” ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตกของเมียนมา เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี โอซีเอชเอให้ข้อมูลว่า ประชาชนมากกว่า 110,000 คน อาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว หรือได้รับสิ่งของบริจาคแล้ว และประชาชนเกือบ 300,000 คน ในรัฐยะไข่ ได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม “ทันเวลา” ก่อนรัฐบาลทหารเมียนมายกเลิกคำสั่ง
ทั้งนี้ อิทธิพลของไซโคลนโมคาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 148 ราย ตามการเปิดเผยของรัฐบาลทหารเมียนมา แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า ผู้เสียชีวิต “มีจำนวนมากกว่านั้นมาก” ในความเป็นจริง.
เครดิตภาพ : AFP