เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. ที่ สโมสรตำรวจถนนวิภาวดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมพวก 10 คน ร่วมกันตบทรัพย์ผู้ต้องหาเว็บพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท ว่า ล่าสุดนายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ ยังคงหลบหนีอยู่ต่างประเทศ กับนางสาวลัดดาวัลย์ ภรรยา แม้จะมีการติดต่อประสานเข้ามอบตัวกับชุดทำงานของตน แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเข้ามอบตัวหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะมาหรือไม่ ตำรวจก็ดำเนินการขออนุมัติหมายแดง คาดว่าในวันพรุ่งนี้จะได้รับการอนุมัติ และจะประสานไปยังประเทศปลายทางเพื่อจับกุมตัวนายบอยและภรรยา

ส่วนกรณีของ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ที่ไม่ปรากฏรายชื่อในรายงานตำรวจที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหานั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า กรณีนี้จะแจ้งกับตำรวจที่มีพยานหลักฐานชัดเจนแล้ว ซึ่งตอนนี้ยังมีอีกหลายรายชื่อที่กำลังขยายผลเพิ่มเติม โดยมีตำรวจมากกว่า 10 นาย และพลเรือนมากกว่า 3 คน ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

ส่วนตอนนี้ตำรวจที่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ได้ให้การรับสารภาพแล้วทั้งหมด ซึ่งได้ให้การที่เป็นประโยชน์มาก คาดว่าจะขยายผลจนได้ความชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ โดยต้องรอข้อมูลเส้นทางการเงินมาประกอบด้วย โดย พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ยังให้การปฏิเสธ แต่ขอทำบันทึกคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรส่งให้พนักงานสอบสวนภายใน 5 วัน

ส่วนกรณี พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.2 ที่ลงชื่อในหมายค้นของศาลอาญามีนบุรี เข้าค้นบ้านนายบอยย่านคลองสามวา พื้นที่รับผิดชอบ สน.คันนายาว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า จากคำให้การของ พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ บอกว่า สาเหตุที่ลงชื่อในหมายค้น เพราะได้รับการประสานจาก พล.ต.ต.กัมพล เมื่อมีชื่อในหมายค้น ก็ต้องเซ็นรับทราบทำตามคำสั่ง

ส่วนการตั้งชุดเฉพาะกิจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า นายบอย ร่วมกับ พล.ต.ต.กัมพล ในการตั้งศูนย์นี้ขึ้นมา รวมถึงเป็นคนคัดเลือกตำรวจชุดนี้ด้วยตนเอง เพราะนายบอย สามารถสั่งการตำรวจได้ ซึ่งการที่บุคคลเหล่านี้มีอำนาจมากกว่าตำรวจ ก็เพราะว่ามีผลประโยชน์ ตำรวจจึงให้อำนาจ เปรียบเสมือนเป็นนอมินีจนมีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าผู้กำกับการทุกสถานีตำรวจในกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือนายบอย มีข้อเสนอที่ดีให้ตำรวจ และตำรวจก็เห็นด้วย แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้กำกับการหลายๆ สถานีตำรวจที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้

ส่วนที่นายเป้ ให้การว่า พล.ต.ต.กัมพล พูดวลีเด็ดกับตนว่า “เป้รักผู้การ เท่าไหร่ ให้เป้เขียนมาเลย” พร้อมยื่นกระดาษเปล่าให้นายเป้ เขียนจำนวนเงิน แต่นายเป้ ให้การว่าไม่ได้เขียนจำนวนเงินลงในกระดาษ จากนั้นตำรวจจึงพาตัวนายเป้ ไปที่ห้องซักถามและให้คุยกับนายต้นและนายบอย ก่อนมีการต่อรองจำนวนเงินและนัดหมายจ่ายเงินใน 5 สถานที่

ส่วนเหตุผลที่นายเป้ ต้องจ่ายเงินมากขนาดนั้น เพราะต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องเว็บพนันของตน และทราบภายหลังว่า เว็บพนันของนายเป้ เกี่ยวข้องกับคนในต่างแดน เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องกับสารวัตรซัว ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ขอไม่ระบุชื่อ เพราะอยู่ในสำนวน

ส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ออกมาแฉว่าขบวนการตบทรัพย์ 140 ล้านบาท มีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่าตัวผู้การ ชลบุรี ประเด็นนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบว่าเชื่อมโยงไปถึงใคร ก็จะดำเนินคดีทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น

สำหรับรายชื่อ “ผู้การชลบุรี-พวก” เอี่ยวคดีรีดไถ 140 ล้าน รวม 14 ราย

1.พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี
2.พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.2
3.พ.ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย รอง ผกก.สส.สภ.หนองขาม จว.ชลบุรี
4.พ.ต.ท.นครราช นนสีลาด สว.(สอบสวน) สภ.หนองขาม จว.ชลบุรี
5.พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.2
6.พ.ต.ต.พรเทพ เพ็ชรนวล สว.สส.สภ.วังจันทร์ จว.ระยอง
7.ร.ต.อ.สมบุญ บุดดาเลิศ รองสว.สส.สภ.พลูตาหลวง จว.ชลบุรี
8.จ.ส.ต.บดินทร์ กองจันทร์ ศปอส.จว.ชลบุรี
9.ส.ต.อ.พีรพัฒน์ ทาคี ศปอส.จว.ชลบุรี
10.ส.ต.ท.นาคินทร์ ครองสุข ศปอส.จว.ชลบุรี โดยทั้ง 10 นาย เข้ารับทราบข้อหาแล้ว

ส่วนรายที่ 11.พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดี ล่าสุดรวมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องคดีนี้ 11 นาย ขณะที่กลุ่มพลเรือน 3 คน 1.นายพิสิษฐ์ หรือต้น คณิศรพาณี (หนีกัมพูชา) 2.นายวีระ หรือบอย นาทรัพย์ (หนีสิงคโปร์) 3.นางสาวลัดดาวัลย์ เมียบอย (หนีอยู่ในไทย)