เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรานงาน จากกรณีเพจ CSI LA โพสต์ข้อความระบุว่า คนในกองทัพเรือรู้สึกไม่สบายใจ ที่มี “นายพล” คนดังเรียกเงินจากบริษัท ชัยเสรี ของมาดามรถถัง 15% และเรียกให้บริษัท Rv Connex ดูแลตอนไปเบอร์ลิน รวมทั้งบังคับให้แก้สัญญาอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ โครงการใหญ่ในกองทัพเรือ เพื่อเอื้อผลประโชน์ให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างของพวกพ้องตัวเอง สุดท้ายประชาชนผู้จ่ายภาษีต้องมาแบกรับ ค่ายุทโธปกรณ์ที่ถูกบังคับลดสเปกและแพงกว่าความเป็นจริง

พร้อมตอบข้อสงสัยที่ว่า ทำไมกองทัพถึงเน้นซื้อรถถังจากต่างประเทศ ทั้งๆ ที่ในประเทศมีสเปกดีกว่าและคาถูกกว่าหลายเท่า #ส่วนต่างนั้นหอมหวาน

ต่อมา นางนพรัตน์ กุลหิรัญ หรือ “มาดามรถถัง” นักธุรกิจหญิงชาวไทย ผู้ก่อตั้งบริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด ผลิตชิ้นส่วนและรถหุ้มเกราะ ให้แก่กองทัพไทยและกองทัพต่างประเทศ อยู่ระหว่างการพักฟื้นตัวหลังได้รับการผ่าตัด ระบุว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ต้องเข้าใจว่าบริษัทชัยเสรีทำงานให้กับกองทัพมาตั้งแต่ปี 2511 ทำเรื่องยุทโธปกรณ์อย่างเดียวของ 3 เหล่าทัพมาโดยตลอด อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ แต่รายได้ของบริษัทส่วนใหญ่ มาจากการส่งขายต่างประเทศมากกว่าภายในประเทศ หรือถ้ามีก็น้อยมากซึ่งของเราส่วนใหญ่เป็นงานซ่อม

“ชัยเสรีขายให้กองทัพไทยมา 50 ปีแล้ว ซึ่งบริษัทของเรามีชื่อเสียงไปทั่วโลก เพราะของไทยเป็นของที่มีคุณภาพ เราก็อยากจะได้รับการสนับสนุนจากประเทศไทยเยอะๆ สำหรับในส่วนของกองทัพเรือ บริษัทชัยเสรีเคยรับซ่อมรถให้ ซึ่งกองทัพเรือซื้อรถใหม่ๆ บริษัทไทยเสรีไม่ได้เป็นเอเย่นต์ไทย เราเป็นโรงงานที่ผลิตเอง ก็ไม่ได้ผลิตอะไรเยอะแยะหรอก แต่ของที่ผลิตในประเทศและเราขายในประเทศในราคาที่ถูกมาก รถในแต่ละคันเราขายในราคา 10 กว่าล้านเอง อย่างรถหุ้มเกราะเราทำของใหม่ขาย ในราคา 15 ล้าน เราพยายามทำของที่ดีที่สุดขายให้กับประเทศไทย เราก็อยากให้สนับสนุนซื้อ เพราะทุกวันนี้ก็ขายได้น้อยมาก” นางนพรัตน์ กล่าว

มาดามรถถังกล่าว ยอมรับอีกว่า ขณะที่โรงงานกำลังผลิตรถหุ้รเกราะ 8×8 แต่ไม่แน่ใจว่าให้กองทัพเรือหรือกระทรวงกลาโหม แต่เห็นในโรงงานกำลังทำอยู่ เพียงแต่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ก็เลยไม่ได้เข้าไปดูและติดตาม

ทางด้าน พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ระบุสั้นๆ ว่า “ยังไม่ทราบประเด็นดังกล่าว ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน”