เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ ห้องประชุม นันทโชติ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรอยุธยา หัวหน้าส่วนงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิริยะ เจิมจำนงค์ สว.ฝอ.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และภรรยา ได้ร่วมกันประชุมในเรื่องที่มีการดำเนินการช่วยเหลือครอบครัว พ.ต.ท.วิริยะ เพื่อหาทุนการศึกษาบุตรหลังเป็นหนี้จากการค้ำประกันเพื่อนตำรวจด้วยกัน

เร่งเดินเครื่อง! ผบ.ตร. ขันนอตสั่งดูแล-ช่วยเหลือ ‘พ.ต.ท.’ ไร้เงินส่งลูกเรียน

พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีการโทรเข้ามาสอบถามถึงเรื่องราวทั้งหมด กำชับ เร่งให้หารแนวทางช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา รวมถึงทาง สมาคมแม่บ้านตำรวจ สมาคมตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือ โดยในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็จะมีเงินช่วยเหลือในส่วนหนึ่ง ช่วยเหลือครอบครัวในเบื้องต้น

ในอนาคต จะมีการช่วยวางแผนในการใช้จ่ายเงินที่ได้รับบริจาคมาโดยมีคณะทำงานเข้ามาดูแล และจะประสานงานกับทางสหกรณ์ออมทรัพย์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ทาง พ.ต.ท.วิริยะ เป็นสมาชิก จะเข้าไปดูแลในส่วนการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อที่จะสามารถบริหารจัดการหนี้ รวมถึงลูกสาวที่เรียนหนังสือ ทางมหาวิทยาลัย ได้มีการประสานที่จะช่วยเหลือในส่วนการศึกษาและค่าเล่าเรียน

ส่วนของการที่ค้ำประกันหนี้ ให้เพื่อนข้าราชการตำรวจ 2 นาย มีทั้งที่ออกจากราชการไปแล้ว รวมถึงข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งจะต้องทำการฟ้องทางแพร่ง ให้มารับผิดชอบหนี้ในส่วนที่มีการกู้เงินไป

พ.ต.ท.วิริยะ เปิดเผยว่า การค้ำประกันให้กับเพื่อนข้าราชการตำรวจ ในการกู้เงิน ของสหกรณ์ตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีการค้ำประกันให้กันไปมา มีรายหนึ่ง ค้ำประกันให้กันไปมา ตั้งแต่เป็นร้อยตรี จนเป็นร้อยเอก จากนั้นมีการขอให้ค้ำประกันให้อีก วงเงินกู้ 2 ล้านบาท เพื่อนตำรวจรายนั้นได้ถูกให้ออกจากราชการเพราะขาดราชการเกิน 15 วัน ตนต้องชดใช้แทน โดยทางสหกรณ์ แนะนำให้กู้เงินมาใช้หนี้และผ่อนมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนการที่จะต้องจ้างทนายฟ้องทางแพ่งยอมรับว่าไม่มีเงินที่จะไปจ้างทนาย

ส่วน เพื่อนตำรวจ รายที่ 2 ที่ไปค้ำประกัน ตนค้ำประกันด้วยความสมัครใจ ช่วงปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา จากนั้นเสียชีวิต ตนและทางสหกรณ์ ไม่ทราบว่าเพื่อนเสียชีวิต จนปลายเดือนพฤศจิกายน ทางสหกรณ์มีหนังสือมาทวงหนี้ 25,000 บาท เพราะเพื่อนไม่ยอมส่ง ตนจึงตรวจสอบไปพบว่าเพื่อนเสียชีวิตแล้ว และมีการเบิกจ่ายเงินฌาปนกิจศพไปหมดแล้ว 570,000 บาท ตนจึงต้องรับผิดชอบหนี้กับทางสหกรณ์ เพราะเป็นผู้ค้ำประกัน

นางพัชริยา ภรรยา เปิดเผยยอดบริจาคถึงขณะนี้ มียอดบริจาค ประมาณ 2.7 ล้านบาท และได้ขอปิดรับบริจาคแล้ว ขอขอบคุณทั้งผู้บังคับบัญชาทุกท่าน สื่อมวลชน ท่านอุปการะทุกท่านที่เมตตา และบัญชีจะมีหน่วยงานเข้ามาช่วยดูและ แต่ขอทำเป็น 2 บัญชี เพราะมีลูก 2 คน จะให้ทุนที่ได้รับเป็นทุนสำหรับลูกทั้ง 2 คน น้องช่อฟ้า และ น้องตะวัน