จากกรณีแฟนบอลอัฒจันทร์ทิศใต้ (S) จุดพลุ หลังเกมฟุตบอลอายุไม่เกิน 17 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2023 รอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่ ไทย แพ้ เกาหลีใต้ 1-4 ที่บีจี ปทุม สเตเดียม

ล่าสุดวันที่ 27 มิ.ย.66 ที่ สถานีตำรวจภูธรธัญบุรี จ.ปทุมธานี สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ได้สั่งการพร้อมมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายสมาคมฯ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษมอบคดีต่อ พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นความผิดอาญาข้อหาหรือฐานใด จนกว่าคดีจะถึงที่สุด โดยได้รวบรวมหลักฐานที่มีการจุดพลุ เกิดระเบิดและเพลิงไหม้แก่วัตถุ จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น ทำให้สมาคมฯ ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงและอาจจะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่มีต่อเจ้าของสถานที่จัดการแข่งขัน ทั้งอาจจะถูกสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ AFC ลงโทษปรับเงิน, ต้องจัดการแข่งขันแบบไม่มีแฟนบอล หรือต้องโดนคำสั่งให้ไปเตะในสนามกลาง อีกด้วย

สมาคมฯ ได้มอบข้อบังคับลักษณะการปกครองของสมาคมฯ พร้อมมอบรูปถ่ายแสดงการกระทำและสถานที่เกิดเหตุให้แก่พนักงานสอบสวน พร้อมที่จะนำพยานไปให้การสอบสวน ต่อไป

นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังได้สอบถามความคืบหน้ากรณีแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มแฟนบอลทำผิดระเบียบการแข่งขันด้วยการจุดพลุ ในการแข่งขันฟุตบอลอาเซียนคัพ 2022 คู่ ทีมชาติไทย พบ ฟิลิปปินส์ ในวันที่ 26 ธ.ค.65 และ ไทย พบ มาเลเซีย วันที่ 10 ม.ค.66 ที่ธรรมศาสตร์ สเตเดียม ที่ สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จ.ปทุมธานี

คดีดังกล่าว มีรายงานจากการสืบสวนสอบสวน พบว่ามีบุคคลที่เข้าข่ายกระทำความผิด 24 ราย ทั้งหมดเป็นเพศชาย มีแกนนำกลุ่ม อายุ 40 ปี มีภูมิลำเนา อยู่ บางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพมหานครฯ บุคคลดังกล่าว เคยถูกออกหมายเรียกในฐานะแกนนำกลุ่ม ในการจุดพลุ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 59 ขณะที่สมาชิกกลุ่มที่เคลื่อนไหวอีก 23 คน ทราบชื่อ-สกุล ภูมิลำเนา ทั้งหมดแล้ว.