เป็นที่จับตาเป็นอย่างมาอยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าสมาชิกภาพ ส.ส. ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ประกอบมาตรา 101 (6) หรือไม่ จากเหตุมีชื่อถือครองหุ้นสื่อบริษัท ITV จำกัด พร้อมขอสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.ค. นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็น ระบุว่า “หนังม้วนเก่ากำลังกลับมาฉายซ้ำ” เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผมได้แถลงข่าว ชี้ให้เห็นว่า เกิดกรณีไม่มีมาตรฐานในเรื่องระยะเวลาในการพิจารณาของ กกต.

กรณีลักษณะต้องห้ามของ ดอน ปรมัตถ์วินัย
กกต. ใช้เวลาพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ 386 วัน
ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาพิจารณารับคำร้อง 70 วัน และไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

กรณีลักษณะต้องห้ามของ 4 รัฐมนตรีสมัยรัฐบาล คสช.
กกต. ใช้เวลาพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ 355 วัน
ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาพิจารณารับคำร้อง 75 วัน และไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

แต่กรณีของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
กกต. ใช้เวลาพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญ 51 วัน
ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาพิจารณารับคำร้อง 7 วัน และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว กรณีของธนาธร กลายเป็นสถิติที่ กกต. พิจารณาเรื่องเกี่ยวกับลักษณะต้องห้าม และศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องได้รวดเร็วที่สุดราวกับนั่งรถไฟความเร็วสูง

มาวันนี้ 4 ปีผ่านไป ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศใช้อำนาจของตนร่วมกันแสดงเจตจำนงสนับสนุนให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี คะแนนเสียงถล่มทลาย คะแนนเสียงมากกว่าเดิมอย่างมีนัยสำคัญ แต่พิธา ก็ยังถูก “นิติสงคราม” กระทำซ้ำ และทำลายสถิติการพิจารณาคำร้องของ กกต. อย่างรวดเร็ว

“หากพิจารณานับจากวันที่เรืองไกร ยื่นคำร้องต่อ กกต. ซ้ำอีกครั้งในวันที่ 20 มิถุนายน ก็เท่ากับว่า กกต.ใช้เวลาพิจารณา 32 วันเท่านั้น!!! พวกเขา บรรดาผู้กำกับภาพยนตร์ ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเอาหนังม้วนเดิมกลับมาเล่นใหม่ หนังม้วนนี้เล่นกันมาเกือบ 20 ปีแล้ว เราจะให้มันจบแบบเดิม อย่างนั้นหรือ???”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล