ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ชี้ว่า เงินอัดฉีดนักฟุตบอลทีมชาติไทย จากผลงานรองแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 จะสามารถจ่ายให้ได้ภายในเดือนนี้ หลังจาก สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ส่งผลลงโทษเพิ่มเติมมาเรียบร้อย พร้อมทั้งยอมรับว่า หากไม่มีระเบียบที่เปิดช่องให้ลงโทษ ก็ต้องจ่ายให้ตามปกติ
ช้างศึกซีเกมส์ เป็นทีมเดียวที่ยังไม่ได้เงินอัดฉีดจาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งตามเกณฑ์เหรียญเงิน นักกีฬา 20 คน คนละ 1.5 แสนบาท, โค้ชได้ 10 เปอร์เซ็นต์, สมาคมฯ ได้ 30 เปอร์เซ็นต์ จากที่นักกีฬาได้ รวมแล้วมากกว่า 4 ล้านบาท ซึ่ง ดร.ก้องศักด ให้เหตุผลว่า มาจากเหตุทะเลาะวิวาทในรอบชิงชนะเลิศกับ อินโดนีเซีย สร้างความเสื่อมเสีย ได้ทำหนังสือให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ชี้แจงการลงโทษเพิ่มเติม
ล่าสุด หลังจาก เอเอฟซี มีบทลงโทษมาเพิ่มเติมแล้ว ดร.ก้องศักด กล่าวว่า ตนได้เห็นบทลงโทษเบื้องต้นจากการประสานมาแล้ว แต่ตามขั้นตอน ก็ต้องรอคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ส่งเรื่องมา แล้ว กกท. จะพิจารณาจากข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่ได้เห็นข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการแล้ว คิดว่าสมเหตุสมผล เอามาอ้างอิงได้ จะเอาแนวทางของ เอเอฟซี มาดู ตนได้ย้ำมาตลอดว่าต้องมีคนรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่นักกีฬา หรือผู้เกี่ยวข้อง แต่ด้วยความรับผิดชอบ การควบคุม ก็อยู่ที่ สมาคมฯ ด้วย แนวทาง เอเอฟซี กับ กกท. สอดคล้องกัน คือ สมาคมฯ ต้องรับผิดชอบ ส่วนนี้จะเอามาประกอบการพิจารณา ตอนนี้ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ จะพิจารณาความเหมาะสมต่างๆ และยืนยันอีกครั้ง
ดร.ก้องศักด กล่าวต่อไปว่า ได้กันเงินส่วนของ ฟุตบอลชายซีเกมส์ ไว้แล้ว แค่เช็กรายละเอียด คิดว่าจ่ายได้ภายในเดือน ก.ค. นี้ ขอโทษนักกีฬา เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตนอย่างดี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่มีเรื่องทำให้ช้าไป แต่ก็ยอมรับว่า อะไรที่ระเบียบไม่เปิดช่องให้ลงโทษ ก็จะไม่ทำ แต่เป็นแนวทางกรณีศึกษา ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นในมหกรรมกีฬาสำคัญ เมื่อถามย้ำว่า คนที่ก่อเรื่องก็จะยังได้เงินตามปกติใช่หรือไม่ ผู้ว่าการ กกท. ตอบว่า อะไรที่ยังไม่มีกฎชัดเจน ก็ต้องให้ไปก่อน
สำหรับโทษของทีมชาติไทย จากแมตช์ฉาวดังกล่าว สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ลงโทษไปก่อนแล้ว คือ ประสบโชค โชคเหมาะ ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู, มายีด หมัดอะด้ำ เจ้าหน้าที่ทีม, ภัทราวุธ วงษ์ศรีเผือก เจ้าหน้าที่ทีม ห้ามยุ่งเกี่ยวทีมชาติ 1 ปี ส่วน 2 นักเตะ โสภณวิชญ์ รักญาติ และ ธีรภักดิ์ เปรื่องนา แบนจากทีมชาติคนละ 6 เดือน
เอเอฟซี ส่งโทษมาเมื่อ 12 ก.ค. นักเตะโดนลงโทษเพิ่ม 2 คน คือ ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช แบน 6 นัด, ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท แบน 6 นัด ขณะที่อีก 2 คน ที่โดนลงโทษอยู่แล้ว ธีรภักดิ์ เปรื่องนา แบน 6 นัด, โสภณวิชญ์ รักญาติ แบน 6 นัด ปรับ 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.4 หมื่นบาท)
เจ้าหน้าที่-โค้ช 3 คนที่โดนโทษจากสมาคมฯ อยู่แล้ว ประสบโชค โชคเหมาะ แบน 6 นัด ปรับเงิน 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.4 หมื่นบาท), มายีด หมัดอะด้ำ แบน 6 นัด ปรับเงิน 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.4 หมื่นบาท), ภัทราวุธ วงษ์ศรีเผือก แบน 6 นัด ปรับเงิน 1,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.4 หมื่นบาท) และมีเพิ่มคือ บำรุง บุญพรม สตาฟฟ์โค้ช แบน 6 นัด
นอกจากนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดนปรับ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.4 แสนบาท) รวมปรับเงินทั้งสิ้น 1.4 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.85 แสนบาท.
