ทางการสาธารณสุขสหรัฐยืนยันว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า พบผู้เสียชีวิตจากรัฐจอร์เจียด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบานีเกลอเรีย ซึ่งมีสมญาว่า “อะมีบากินสมอง” โดยปกติแล้ว เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยาก และผู้ป่วยรายนี้นับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 6 ด้วยโรคดังกล่าวในรัฐจอร์เจีย นับตั้งแต่ปี 2505 เป็นต้นมา

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิต ซึ่งไม่มีการระบุตัวตน ได้รับเชื้ออะมีบาระหว่างที่ลงเล่นน้ำในแหล่งน้ำจืด เช่น ทะเลสาบหรือสระน้ำตามธรรมชาติ แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นที่ไหน 

เชื้ออะมีบานีเกลอเรียซึ่งอยู่ในแหล่งน้ำจะทำให้ป่วยก็ต่อเมื่อผ่านเข้าสู่ร่างกายทางจมูกเท่านั้น โดยถ้าหากกลืนน้ำที่มีเชื้อนี้เข้าไป จะไม่มีผล และไม่มีการติดต่อจากคนสู่คน

เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่า อะมีบาชนิดนี้มีอยู่ตามธรรมชาติในแหล่งน้ำจืดต่าง ๆ โดยจะมีบริมาณมากหรือน้อยในแต่ละแหล่งนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยตามธรรมชาติและแต่ละช่วงเวลา อีกทั้งไม่สามารถควบคุมได้ 

อาการของผู้ป่วยติดเชื้ออะมีบานีเกลอเรีย ได้แก่ ปวดศีรษะอย่างรุนแรง มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน หลังจากนั้นจะเกิดอาการคอแข็ง ชัก ร่างกายเกร็งและเข้าสู่ภาวะโคม่า ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการหลังจากที่ได้รับเชื้อราว 5 วัน เมื่อมีอาการแล้วจะร่างกายจะทรุดหนักอย่างรวดเร็วและเสียชีวิตได้ในเวลาไม่ถึงสัปดาห์

ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐให้ข้อมูลว่า อะมีบานีเกลอเรียมักจะอยู่ในแหล่งนี้ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 26 องศาเซลเซียสขึ้นไป แม้ว่าจะเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ในปีนี้ สหรัฐมีผู้เสียชีวิตเพราะโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบานีเกลอเรียไปแล้วถึง 2 รายภายในระยะเวลาเดือนเศษ โดยผู้เสียชีวิตรายแรกของปีนี้เป็นเด็กที่ได้รับเชื้อจากการไปเที่ยวน้ำพุร้อนในรัฐเนวาดา

ที่มา : cbsnews.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES