นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เผยความสำเร็จในการเจรจากับญี่ปุ่น ปิดดีลเงื่อนไขการส่งออกมังคุดไทยไปญี่ปุ่นโดยไม่ต้องอบไอน้ำ ว่าคณะอนุกรรมการพิเศษร่วมในความร่วมมือด้านความปลอดภัยอาหาร ภายใต้กรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ครั้งที่ 13 ณ ประเทศ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการประชุมครั้งนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นแจ้งว่าได้ออกประกาศเงื่อนไขอนุญาตนำเข้ามังคุดไทยโดยไม่ต้องอบไอน้ำกำจัดแมลงวันผลไม้ลงใน Official Gazette พร้อมแจ้งกำหนดการเดินทางมาตรวจรับรองก่อนการส่งออกครั้งแรกในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคม อันจะทำให้ไทยสามารถส่งออกมังคุดสดด้วยวิธีการใหม่ ที่ไม่ต้องผ่านการอบไอน้ำไปญี่ปุ่นได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้

ทั้งนี้ จะช่วยลดต้นทุนการผลิตและส่งออกมังคุดของไทยแล้ว ยังช่วยคงความสดใหม่และไม่สร้างความเสียหายให้กับผลมังคุดสด และช่วยเพิ่มอายุการเก็บรักษาของมังคุดให้ยาวนานขึ้น อีกทั้งถือเป็นการเพิ่มมูลค่าตลาดส่งออกให้กับมังคุดสดของไทยประมาณปีละ 200 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จในการเจรจาเพื่อให้ญี่ปุ่นมั่นใจในระบบบริหารจัดการและควบคุมแมลงวันผลไม้ของไทย จนกระทั่งยอมรับมาตรการสำหรับส่งออกมังคุดของไทยนี้ ถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่เกิดจากการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ กรมวิชาการเกษตรที่กำกับดูแลการส่งออกสินค้าพืช และ มกอช. ที่ได้หารือและดำเนินงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับฝ่ายญี่ปุ่น มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 ผ่านกลไกการเจรจาที่สำคัญทั้งภายใต้กรอบความร่วมมือ JTEPA และกลไกการหารือทางเทคนิคของเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการหารือและผลักดันการเปิดตลาดและแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรอื่นร่วมกัน อาทิ การเปิดตลาดส้มโอไทย การเปิดตลาดข้าวกล้องญี่ปุ่น มาตรการทางเลือกในการส่งออกส้มสดญี่ปุ่นมายังไทย โดยฝ่ายญี่ปุ่นได้แสดงความขอบคุณฝ่ายไทยเช่นเดียวกัน ที่ได้ยอมรับมาตรการทางเลือกสําหรับส่งออกผลส้มญี่ปุ่นมายังไทย ที่เจรจาร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการอำนวยความสะดวกทางด้านการค้า และยกระดับความร่วมมือด้านความปลอดภัยอาหาร อันนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ

“ผลมังคุดสดที่จะส่งออกไปยังญี่ปุ่น จะต้องมาจากสวนที่ปลูกเพื่อการค้าและได้รับขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตร ผู้ผลิตมังคุดต้องมีการจัดการสวนและการเก็บเกี่ยวมังคุดผลสด ตามมาตรฐานการผลิตเพื่อการค้าสำหรับการส่งออกไปญี่ปุ่น มีสุขอนามัยในสวนที่ดี มีการจัดการศัตรูพืชอย่างเหมาะสม รวมทั้งต้องยื่นขอรับการตรวจรับรองสวนเพื่อการส่งออกไปญี่ปุ่น และผ่านอบรมการส่งออกมังคุดผลสด ภายใต้มาตรการทางเลือกใหม่จากกรมวิชาการเกษตร สำหรับผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ จะต้องแจ้งความประสงค์ไปยังกรมวิชาการเกษตร เพื่อขอเข้าร่วมการส่งออก พร้อมยื่นรายชื่อสวนมังคุดที่จะส่งออกไปญี่ปุ่นภายใต้มาตรการใหม่ และขอรับการขึ้นทะเบียนโรงคัดบรรจุกับกรมวิชาการเกษตร โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิจัยการกักกันพืช สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 0-2940-6670 ต่อ 142”