“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กินแห้วเรียบร้อยแล้ว เมื่อ “สิงห์สำอาง” เชลซี ประกาศเป็นทางการ ปิดดีลเซ็นสัญญาคว้าตัว มอยเซส ไคเซโด มิดฟิลด์นักเตะทีมชาติเอกวาดอร์ วัย 21 ปี มาร่วมทีมเรียบร้อยแล้ว พร้อมยืนยันด้วยภาพ ไคเซโด ชูเสื้อเชลซีในเว็บไซต์เป็นทางการของสโมสรแล้ว ด้วยสถิติค่าตัวเป็นประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก 115 ล้านปอนด์ หรือราว 5,154 ล้านบาท ในสัญญา 8 ปี พร้อมออพชั่นสโมสรสำหรับปีต่อไป มาซบถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะโอเคกับ “หงส์แดง” ที่ค่าตัว 110 ล้านปอนด์ แค่ ไคเซโด เลือกเชลซีในที่สุด
“ผมมีความสุขเหลือเกินที่ได้ร่วมทีมเชลซี! ผมตื่นเต้นมากที่ได้มาอยู่กับสโมสรขนาดใหญ่ และผมไม่ต้องคิดซ้ำซ้อน ตอนที่เชลซีโทรฯ มาหา ผมแค่รู้ว่าผมต้องการเซ็นสัญญากับสโมสร มันคือฝันที่เป็นจริงในการได้มาที่นี่ และผมก็รอไม่ไหวแล้วที่จะได้เริ่มต้นกับทีม” ไคเซโด กล่าวในแถลงการณ์ของสโมสร
มีรายงานว่าเชลซีจะจ่ายเงินเบื้องต้น 100 ล้านปอนด์ และอีก 15 ล้านปอนด์ สำหรับโบนัสที่เกี่ยวข้องกับผลงาน การปิดดีลครั้งนี้ ทำให้ไบรท์ตัน มีกำไรมหาศาล หลังเซ็นสัญญาซื้อ ไคเซโด จาก อินดีเพนดิเอนเต เดล บาเย สโมสรในเอกวาดอร์ด้วยราคาเพียง 4 ล้านปอนด์ในปี 2021
เดวิด เวียร์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของไบรท์ตัน กล่าวว่า “เชลซีกำลังได้หนึ่งในมิดฟิลด์ชั้นนำของโลก มอยส์ เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมของเราตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา มีทักษะกองกลางที่หายาก”
สำหรับเชลซีทุ่มเงินเกือบ 900 ล้านปอนด์ ซื้อนักเตะจากตลาดซื้อขายนักเตะเพียง 3 ช่วงการตลาดซื้อขายนักเตะ นับตั้งแต่การเทคโอเวอร์โดย ท็อดด์ โบห์ลี เจ้าของร่วมของ แอลเอ ดอดเจอร์ส และกลุ่มหุ้นเอกชน เคลียร์เลค แคปิตอล อย่างไรก็ตาม ทีมจบอันดับที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นการจบด้วยอันดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 ขณะที่กุนซือคนใหม่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน เริ่มต้นได้อย่างมีความหวัง ในเกมเสมอกับลิเวอร์พูล 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“มอยเซส ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นนักเตะที่โดดเด่นในเวทียุโรปตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา และพวกเราก็ตื่นเต้นที่ได้เสริมเขาเข้าสู่ขุมกำลังของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน มอยเซส ครอบครองทักษะหายากของกองกลาง และเขาเป็นนักเตะที่พวกเรามองเป็นเป้าหมายมาสักพักแล้ว เราเชื่อมั่นว่าเขาจะสร้างอิมแพ็คที่สำคัญในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ฤดูกาลนี้ รวมทั้งอีกหลายปีข้างหน้าที่รออยู่” ลอเรนซ์ สจ๊วร์ต และพอล วินสแตนลีย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาร่วมของเชลซีกล่าว
ภาพจากเว็บไซต์สโมสรเชลซี และ AFP
