ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่นกรุงเทพมหานคร ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เป็นประธานเปิดโครงการขับเคลื่อนการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) และแนวทางการแก้ปัญหาการครอบครองที่ดินของประชาชนในที่ดินของรัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ภารกิจและอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการ One Map และผลการดำเนินงานการปรับปรุงแผนที่ แนวเขตที่ดินของรัฐฯ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติพ.ศ. 2562 มาตรา 10 (7) กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ มีหน้าที่และอำนาจในการเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐและมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ ประกอบกับนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ. 2566 – พ.ศ. 2580) ด้านที่ 1 การสงวนหวงห้ามที่ดินของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาความสมดุลทางธรรมชาติ กำหนดให้มีการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ ให้มีความชัดเจน และมีมาตรฐานเดียวกัน ให้มีการพัฒนาระบบบริหารจัดการ ที่มีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีที่ ทันสมัย ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบจากการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ ด้วยการพิสูจน์สิทธิเพื่ออำนวยความเป็นธรรมกับประชาชน

ในการนี้ ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผอ.สคทช. ได้กล่าวในพิธีเปิดโครงการว่า “One Map คือ โครงการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือคทช. ตามมาตรา 10 (7) แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2562 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศไทย มีแนวเขตที่ดินของรัฐที่ถูกต้อง ไม่ทับซ้อนกัน เป็นมาตราส่วนเดียวกัน ตามกรอบแนวคิดหนึ่งพื้นที่หนึ่งหน่วยงานรับผิดชอบ One Land One Law” ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการ One Map มีการดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 3 กลุ่ม กล่าวคือ พื้นที่กลุ่มที่ 1 จำนวน 11 จังหวัด คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ พื้นที่กลุ่มที่ 2 จำนวน 11 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 พื้นที่กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่28 กุมภาพันธ์ 2566 และพื้นที่กลุ่มที่ 4 ดำเนินการแล้ว จำนวน 9 จังหวัด คณะอนุกรรมการ One Map ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 อยู่ระหว่างเตรียมนำเสนอ คทช. และคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาต่อไปสำหรับพื้นที่กลุ่มที่เหลือ 5 – 7 คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

ผอ.สคทช. กล่าวเสริมว่า ได้เสนอแนวทางการลดขั้นตอนในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มาตรฐานการจัดทำระวางแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ และพัฒนาประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ให้สอดคล้องกับผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดิน ของรัฐฯ (One Map) การจัดทำงบประมาณแบบบูรณาการ การประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับทุกภาคส่วน การจัดตั้งคณะทำงานติดตาม และขับเคลื่อนการดำเนินการ One Map โดยมีเป้าหมาย เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด กล่าวคือ ให้หน่วยงานที่มีที่ดินในความรับผิดชอบปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายใน 360 วัน รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือหากมีประชาชนได้รับผลกระทบ หรือได้รับความเดือดร้อน โดยยึดแนวทางตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ที่กำหนดเป็นหลักการว่าจะต้องไม่ลิดรอนสิทธิของประชาชน หากแต่จะให้ความเป็นธรรม โดยการพิสูจน์สิทธิในที่ดิน ตามมาตรการที่ คทช. กำหนด ทั้งนี้การดำเนินการ One Map จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติ เนื่องจากจะช่วยลดการทับซ้อนของที่ดินของรัฐ ทำให้การบริหารจัดการมีเอกภาพ และประสิทธิภาพ ช่วยลดความขัดแย้งระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกันเอง และกับประชาชน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ทุกฝ่ายจะทราบขอบเขตที่ดินของรัฐได้อย่างชัดเจน ประชาชนสามารถทำประโยชน์ในที่ดินได้อย่างถูกต้อง ไม่รุกล้ำที่ดินของรัฐ ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคมที่ดีขึ้นต่อไป
การสัมมนาครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.ขวัญชัย ดวงสถาพร ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะอนุกรรมการ One Map เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “บทบาทการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ (One Map) ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาที่ดินของรัฐ และทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ” และนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “แนวทางการแก้ไขปัญหาประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตที่ดินของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ (One Map)” ซึ่งมีนายสุริยน พัชรครุกานนท์ รองผอ.สคทช. นายประเสริฐ ศิรินภาพร รอง ผอ.สคทช. ว่าที่ ร.ต. พีรพล มั่นจิตต์ ผู้ช่วย ผอ.สคทช. ร่วมกับผู้แทนจากกรมธนารักษ์ กรมที่ดิน กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมพัฒนาสังคม และสวัสดิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กรมแผนที่ทหาร สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมการปกครอง รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และผู้เข้าร่วมผ่านระบบออนไลน์จาก 77 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 440 คน