เรียกได้ว่ายังเป็นประเด็นร้อนที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ สำหรับเรื่องราวของร้านอาหารชื่อดัง ได้ออกมาระบุว่า จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญากับเมนู “ปังชา” จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์กันเป็นอย่างมาก แถมยังมีการยื่นโนติสไปถึงร้านที่ใช้คำว่า “ปังชา” โดยร้านแรกเรียก 102 ล้านบาท ร้านที่ 2 ถูกเรียก 7 แสนบาท และอีกหนึ่งร้านซึ่งถูกระบุว่าใช้ถ้วยคล้ายคลึงกัน ก็ถูกเรียก 2 ล้านบาท จนกลายเป็นกระแสวิจารณ์อย่างร้อนแรง ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
-ย้ำชัดคำว่า ‘ปังชา’ ทั้งไทยทั้งอังกฤษ ใช้ได้ไม่ผิด ร้านรับเข้าใจผิด-คลาดเคลื่อนเอง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ก.ย. โลกออนไลน์ยังคงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดังกล่าวอย่างร้อนแรง โดยมีการนำโพสต์ของร้านชาบูชื่อดังที่มีถึง 6 สาขาอย่าง “Penguin Eat Shabu – เพนกวินกินชาบู” ซึ่งเคยเล่าเรื่องราวการพบว่า มีร้านคาเฟ่เจ้าหนึ่ง ได้ใช้รูป “เพนกวิน” ที่มีทั้งลายเส้น และการใช้สีแบบเดียวกัน แต่สิ่งที่ทางร้านทำกลับเป็นการติดต่อเพื่อทำความเข้าใจ โดยไม่มีการเรียกเงิน อีกทั้งยังให้ทางร้านคาเฟ่ดังกล่าว ใช้สติกเกอร์ที่มีรูปดังกล่าวจนหมดเสียก่อนโดยไม่ต้องทำลาย แล้วค่อยเปลี่ยนใหม่อีกด้วย

โดยทาง “Penguin Eat Shabu” ได้เล่าเรื่องราวดังกล่าวไว้เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา ระบุว่า “การมีแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นธุรกิจ เป็นสิ่งสำคัญ และเป็นเรื่องที่ดี แต่บางที การพัฒนาต่อยอด และปรับเปลี่ยนไอเดีย จากต้นฉบับแรงบันดาลใจนั้น ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ยินดีเสมอที่ได้เป็นส่วนนึงของแรงบันดาลใจ สำหรับคนทำธุรกิจทุกคน” เนื่องจากมีหลายคนเริ่มมาถามว่า ไปขายชานมเหรอ? ในกรณีที่ร้าน “Penguin เพนกวินชานมไข่มุก” ได้มีสัญลักษณ์ทางธุรกิจ คล้ายคลึงกับทางร้าน “Penguin Eat Shabu”

ทางกวิ้นได้มีการติดต่อ ทางร้าน Penguin coffee&tea (เพิ่งเปลี่ยนชื่อเป็น Penguin เพนกวินชานมไข่มุก) ไปทาง Messenger แล้ว ทางร้าน Penguin เพนกวินชานมไข่มุก ไม่ได้มีความตั้งใจ ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดใดๆ ทั้งนั้น แต่อาจเป็นเพราะ ความไม่รู้หรือไม่ได้ตั้งใจ โดยที่ทางร้านจะขออนุญาตใช้โลโก้นี้ จนกว่า packaging ที่สั่งทำไปจะหมด “ไหนๆ ก็อุตส่าห์มีร้านชานมชื่อน่ารักๆ เพิ่มมาอีกร้านแล้ว อย่าลืมไปช่วยอุดหนุน ร้าน Penguin เพนกวินชานมไข่มุก กันด้วยนะครับ พี่เขาจะได้ใช้สติกเกอร์ให้หมด แล้วจะได้เปลี่ยนเป็นโลโก้ใหม่เร็วๆ”

อย่างไรก็ตาม หลังมีเรื่องราวดราม่า “ปังชา” ชาวเน็ตต่างกลับมาแชร์โพสต์ดังกล่าวของ “Penguin Eat Shabu” มากกว่า 3.5 พันครั้ง โดยส่วนใหญ่ต่างบอกว่า นี่เป็นเรื่องราวตัวอย่างของการใจกว้าง น่ารักมากที่มีการเข้าไปพูดคุยด้วยความสุภาพ อีกทั้งยังช่วยโปรโมตให้ร้านคาเฟ่ที่เป็นร้านเล็กๆ มากกว่าทางชาบูมาก เป็นการเจรจาที่ดีทั้งฝั่งชาบูและคาเฟ่ จนอยากจะไปอุดหนุนทั้งสองร้านอีกด้วย..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Penguin Eat Shabu – เพนกวินกินชาบู