เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้ ครม. แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162  นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า สมัยเป็นนายเศรษฐา กับตอนนี้ที่ได้เป็นนายกฯเศรษฐา จุดยืนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แตกต่างราวฟ้ากับเหว ตนตั้งคำถามถึงนายก 4 ข้อ คือ 1.จะจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เมื่อไร เพราะช่วงหาเสียงเคยบอกว่าจะให้จัดทำฉบับใหม่ แต่ในเอกสารแถลงนโยบายรัฐบาลบอกเพียงว่าจะหารือเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญ 2.ใครจะเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาจะให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ในเอกสารแถลงนโยบายกลับไม่ได้ปรากฏคำว่า ส.ส.ร. ตกลงจะให้มีส.ส.ร. หรือจะปล่อยให้อำนาจตกเป็นของรัฐสภา ซึ่งเราก็เห็นประจักษ์แล้วว่าสว.ขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ  

 นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า 3.การแก้รัฐธรรมนูญจะล็อกเนื้อหาอะไรบ้าง ที่ผ่านมาล็อกเพียงรูปแบบการปกครอง แต่พอแถลงต่อรัฐสภา นอกจากล็อกรูปแบบการปกครองแล้ว ยังเพิ่มว่าจะไม่แก้ไขหมวด1ความมั่นแห่งรัฐ และหมวด2สถาบันพระมหากษัตริย์ และ4.การแก้รัฐธรรมนูญจะเริ่มต้นอย่างไร กล้ายืนยันได้หรือไม่ว่า การประชุมครม.นัดแรกในวันที่ 13 ก.ย. จะออกมติครม. จัดทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ  

 นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า หากวันนี้ท่านยังไม่พร้อมลุกเพื่อยืนยันว่าจะเดินหน้าตามจุดยืนเดิมที่เคยประกาศไว้ ตนขออนุญาตไม่เชื่อว่านายกฯคนนี้จะพาเราไปสู่จุดหมายสู่รัฐธรรมนูญที่มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย ไม่น่าเชื่อว่าการเติมตัวอักษร ก. เพียงตัวเดียว จากนายเศรษฐาเป็นนายกเศรษฐาจะทำให้จุดยืนเปลี่ยนแปลงไป ประชาชนคงต้องวิเคราะห์เองว่าตัวอักษร ก. ที่เพิ่มนั้นย่อมาจากอะไร  

“สำหรับตนย่อมาจากคำว่ากลัวและเกรงใจที่อธิบายความรู้สึกที่ท่านมีต่อพรรคร่วมรัฐบาล และเครือข่ายอำนาจเดิมที่ทำให้นายเศรษฐาได้เป็นนายกฯในวันนี้ จนทำให้ไม่กล้าผลักดันวาระการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนตามที่เคยได้ให้สัจจะไว้”นายพริษฐ์