จากกรณีตัดไม้พะยูงในโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี 22 ต้น กับอีก 2 ตอ ราคา 153,000 บาท โรงเรียนหนองโนวิทยา อ.ห้วยเม็ก 9 ต้น ราคา 104,000 บาท และโรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ อ.ห้วยเม็ก 3 ต้น ราคา 30,000 บาท ซึ่งจากการประเมินราคากลาง ตามมาตรฐานกรมป่าไม้ พบว่าต่ำกว่าตลาด 30-50 เท่า ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการขออนุญาต และการให้อนุญาต ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 และธนารักษ์ ยังไม่ออกมาชี้แจงให้ความกระจ่างต่อสังคม และในส่วนขององค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ท. ก็ยังไม่รายงานความคืบหน้าของการตรวจสอบ จึงเป็นประเด็นให้ชาวบ้าน เครือข่ายรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ แจ้งเบาะแสมาที่ฝ่ายความมั่นคง ว่ามีการขออนุญาตและให้อนุญาตตัดไม้พะยูงในโรงเรียนเป็นข่าวรายวัน เช่น ที่โรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว และโรงเรียนชุมชนดอนยูงวิทยา อ.ยางตลาด ล่าสุด นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบเชิงลึก เร่งเก็บข้อมูลเพิ่ม กรณี สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ให้ตัดไม้พะยูงขายแบบต่อเนื่องไม่ชอบมาพากล ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากฝ่ายความมั่นคง จ.กาฬสินธุ์ มีเครือข่ายภาคประชาชน ส่งข้อมูลลับ ซึ่งถือเป็นเอกสารสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ในกรณีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ขออนุญาตธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ตัดไม้พะยูงในโรงเรียนจำหน่ายให้กับพ่อค้า โดยล่าสุด พบที่โรงเรียนหนองกุงไทย ต.โนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 7 ต้น หนังสือลงวันที่ 26 ธ.ค. 65 พร้อมกับมีหนังสือคำสั่งแต่งตั้งกรรมการประเมินราคาชัดเจน ซึ่ง 1 ใน 3 รายมีชื่อเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์คนเดิม ตำแหน่งนายช่างสำรวจอาวุโส ซึ่งเป็นคนที่ปรากฏชื่อในหลายโรงเรียนที่ถูกเอ่ยถึงหลายแห่งว่า “สันติ”

ทั้งนี้ จากการที่มีหนังสือขออนุญาตตัด และให้อนุญาตตัดไม้พะยูงในโรงเรียนหลุดออกมารายวันดังกล่าว ล่าสุดที่โรงเรียนหนองกุงไทย ต.โนนสะอาด อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จึงเป็นแห่งที่ 10 ที่มีการตัดไม้พะยูงในโรงเรียนจำหน่าย ซึ่งเครือข่ายภาคประชาชนใน จ.กาฬสินธุ์ ได้แจ้งข้อมูลมาที่ฝ่ายความมั่นคง และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบข้อเท็จจริงปัญหาตัดไม้พะยูงในโรงเรียน และคณะกรรมการตรวจสอบเชิงลึก โดยการอำนวยการของนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผวจ.กาฬสินธุ์ ที่มีนายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นหัวหน้าชุด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเชิงลึก แบบรีเช็คขั้นตอนการดำเนินการ ซึ่งสันนิษฐานว่าจะมีการตัดไม้พะยูงขาย ในลักษณะไม่สมเหตุสมผล ฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด และขัดต่อหนังสือของกรมธนารักษ์ ตาม ว 20 ลงวันที่ 1 ก.พ. 60 โดยต้องมีเหตุผลและความจำเป็นเท่านั้น ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดจริงจัง เพราะสังคมกำลังจับตามอง และเชื่อว่าทำเป็นขบวนการ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องทุกโรงเรียน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ได้รายงานถึง ผวจ.กาฬสินธุ์ กรณีการขออนุญาตตัดไม้และการจำหน่ายไม้ในที่ราชพัสดุ ในสถานศึกษาเพียง 5 แห่งเท่านั้น โดยหนังสือลงวันที่ 7 ก.ย.66 ประกอบด้วย (1) โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ 3 ต้น จำนวนเงิน 30,000 บาท (2) โรงเรียนหนองโนวิทยาคม 9 ต้น จำนวนเงิน 104,000 บาท (3) โรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว 2 ต้น จำนวนเงิน 25,500 บาท (4) โรงเรียนบ้านสร้างแก้ว อ.สมเด็จ (สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3) 1 ต้น ไม่มีของกลางเนื่องจากคนร้ายขนย้ายไป เหตุเกิดเมื่อ 30 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 03.00-04.00 น. และ (5) โรงเรียนคำไฮวิทยา 22 ต้นกับอีก 2 ตอ ราคา 153,000 บาท รวมเป็นเงินจากการจำหน่ายไม้พะยูง โดยนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน จำนวน 312,500 บาท แต่ไม่ปรากฏว่ามีรายชื่อโรงเรียนหนองกุงไทย ที่ตัดไม้พะยูงขาย 7 ต้นนี้เลย

ทั้งนี้ จากข้อมูลการตัดไม้พะยูงในที่ราชพัสดุและในโรงเรียน พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้รับแจ้งเข้ามายังฝ่ายความมั่นคง ในรอบเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ รวมแล้ว 9 แห่งด้วยกัน ประกอบด้วย (1) ที่สถานีเพาะชำกล้าไม้กาฬสินธุ์ ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด 1 ต้น, (2) ขออนุญาตตัดที่โรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จำนวน 22 ต้น (3) รับแจ้งตัดไม้พะยูงที่โรงเรียนหนองโนวิทยาคม อ.ห้วยเม็ก จำนวน 9 ต้น (4) คนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียนห้วยเม็กวิทยา 1 ต้น, (5) ลักลอบตัดไม้พะยูงที่สถานีวนวัฒนวิจัยกาฬสินธุ์ ต.อุ่มเม่า อ.ยางตลาด 1 ต้น (6) รับแจ้งขออนุญาตตัดไม้พะยูงขายจำนวน 3 ต้นที่โรงเรียนคุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ อ.ห้วยเม็ก (7) ตัดและขายไม้พะยูงทอดตลาด 6 ต้น ที่โรงเรียนหนองแวงบ่อแก้ว (8) ที่โรงเรียนชุมชนดอนยูงวิทยายน อ.ยางตลาด 1 ต้น (9) ที่โรงเรียนบ้านสร้างแก้ว อ.สมเด็จ 1ต้น และล่าสุด แห่งที่ (10) ที่โรงเรียนหนองกุงไทย จำนวน 7 ต้น โดยมีชื่อของเจ้าหน้าที่ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ เป็นกรรมการประเมินราคาขายปรากฏอยู่ด้วย ขณะที่ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ และอธิบดีกรมธนารักษ์ ยังไม่ได้ชี้แจงอะไรออกมาอีก.