เมื่อวันที่ 12 ต.ค. พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) กล่าวว่า ยังคงมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล ใช้เส้นทางถนนสายหลักและสายรอง จึงสั่งการให้รถยนต์สายตรวจ ของตำรวจทางหลวง เฝ้าสังเกตและตรวจสอบรถยนต์ที่จะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว

โดยเวลา 18.00 น. ของวานนี้ (11 ต.ค.) รถยนต์สายตรวจ ตำรวจทางหลวงอยุธยา ออกตรวจบนถนนพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพมหานคร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พบรถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ 4 ประตู สีเทา หมายเลขทะเบียน กน 7852 กำแพงเพชร ขับขี่ผ่านมา มีลักษณะบรรทุกของหนักมาจำนวนมากผิดปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกะพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด รถยนต์คันดังกล่าวพอเห็นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเครื่องหลบหนีด้วยความเร็ว จึงได้ติดตามไป ซึ่งสามารถสกัดจับกุมได้ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 73-74 ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจค้นภายในรถ มี นายอภิวิชญ์ แซ่ว่าง อายุ 19 ปี ชาว จ.ตาก เป็นคนขับ ภายในรถพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 14 คน นั่งอัดแน่นมาในรถ เป็นชาย 10 คน หญิง 3 คน แรงงานต่างด้าวทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง

สอบถาม นายอภิวิชญ์ คนขับรถกระบะ ทราบว่า มีรถกระบะ อีซูซุ สีเทา ทะเบียน บบ 3118 ตาก ขับขี่นำทางสำรวจด่านตรวจ ตามเส้นทางมาตั้งแต่ จ.ตาก แยกย้ายกันที่ อ.วังน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วิทยุประสานติดตามจับกุมได้ มีนายกอ แซ่ลี อายุ 37 ปี ชาว จ.ตาก เป็นคนขับ และคนที่นั่งมาด้วยรถด้วยอีก 3 คน

สอบถาม นายอภิวิชญ์ คนขับรถกระบะที่ขนแรงงานต่างด้าว ยอมรับว่าทำเป็นครั้งแรก โดยมีชายไทยไม่ทราบชื่อโทรศัพท์ติดต่อว่าจ้างให้ไปรับที่บริเวณป่าข้างทาง พื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก จำนวน 13 คน ไปส่งที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และจะมีรถอีกคนมารับ โดยได้รับค่าจ้าง 10,000 บาท ส่วนรถกระบะที่ขับมาเป็นรถของพ่อ ได้ขอยืมมาบอกว่าจะมาแฟนสาวที่กรุงเทพมหานคร จนมาถูกตำรวจจับกุม รู้ว่าผิดกฎหมายแต่ว่าอยากได้เงิน เพราะรายได้จากการทำไร่ไม่เพียงพอ

ด้าน นายกอ คนขับรถนำทาง อ้างว่า ตนเองและคนในรถมาจากบ้านเดียวกัน กำลังจะขับรถไปทำงานในจังหวัดระยอง มีคนติดต่อมาว่าให้ขับรถนำมาหน่อย จึงขับรถนำมา จนมาถูกจับกุมด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ พบว่าแรงงานต่างด้าวทั้งหมดได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ และเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย ในราคาประมาณ 10,000 บาท พบว่าเวลาเดินทางมา 2 วัน ยังไม่ได้กินข้าว เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ซื้อข้าว ซื้อน้ำ ให้ทานอีกด้วย จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.