สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวนอกรอบการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (บีอาร์เอฟ) ครั้งที่ 3 ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งตรงกับโอกาสครบรอบ 10 ปี แผนยุทธศาสตร์หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (บีอาร์ไอ) ว่าธนาคารพัฒนาจีน (ซีดีบี) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน (ไชน่า เอ็กซิมแบงก์) เพิ่มวงเงินกู้ให้กับโครงการอีก 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.63 ล้านล้านบาท)
การดำเนินการดังกล่าว เท่ากับเป็นการขยายวงเงินสินเชื่อให้กับโครงการต่าง ๆ ซึ่งเข้าร่วมกับบีอาร์ไอ รวมมูลค่ามากกว่า 47,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว (ราว 1.74 ล้านล้านบาท)
China's Xi announces over US$100 billion in new Belt and Road funding https://t.co/X9Z8aeAo28 pic.twitter.com/ctSE2mwsHa
— CNA (@ChannelNewsAsia) October 18, 2023
อนึ่ง ผู้นำจีนกล่าวในตอนหนึ่งของการเปิดประชุมบีอาร์เอฟ ว่ารัฐบาลปักกิ่งจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วม กับ การเผชิญหน้าทางอุดมการณ์ การเดินหมากเกมทางภูมิศาสตร์การเมือง หรือการเผชิญหน้าระหว่างขั้วอำนาจ
จีนคัดค้านการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียว การบีบบังคับทางเศรษฐกิจ การแบ่งขั้วหรือแบ่งแยกห่วงโซ่อุปทาน และการตัดขาดจากกัน การที่ประเทศใดประเทศหนึ่งมองพัฒนาการของอีกประเทศ “เป็นภัยคุกคาม” และการพึ่งพากันทางเศรษฐกิจ “เป็นความเสี่ยง” ไม่ได้ช่วยให้คุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศนั้นดีขึ้น หรือการพัฒนาของประเทศนั้นจะไปไกล และรวดเร็วกว่าที่เป็นอยู่
ผู้นำจีนยืนยันว่า บีอาร์ไอ ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งริเริ่มขึ้นมานั้น มีเป้าประสงค์เพื่อ “สร้างแรงผลักดันใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลก” ด้วยการยกระดับด้านนโยบายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การค้า การเงิน และการแลกเปลี่ยนระหว่างบุคคล ด้วยความเชื่อมั่นว่า ทุกความพยายามสำเร็จได้ บนความร่วมมือแบบสมประโยชน์และสานประโยชน์ทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า แม้บีอาร์ไอเริ่มต้นที่จีน แต่โอกาสและความสำเร็จเป็นการแบ่งปันร่วมกับทั้งโลก.
เครดิตภาพ : AFP