จากกรณีเยาวชนหญิงอายุ 19 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต เนื่องจากถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินไปซื้อโทรศัพท์ไอโฟนในระบบผ่อนจ่ายกับร้านค้าออนไลน์ และผ่อนจ่ายไปแล้วเกือบ 20,000 บาท แต่ยังไม่ได้โทรศัพท์ จนรู้ว่าถูกหลอกจึงตัดสินใจด้วยการจบชีวิต ตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้น

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 เผยถึงความคืบหน้าในการสอบสวน ภายหลังจากคุมตัวนางสาวดอกแก้ว อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หนึ่งในบัญชีม้าที่รับโอนเงินจากนักเรียนหญิง ม.6 ที่ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกโอนเงินผ่อนโทรศัพท์ไอโฟน 13 ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ไปกว่า 18,500 บาท พบว่า นอกจากนางสาวพลอยที่ตกเป็นเหยื่อแล้ว ยังมีผู้เสียหายอีก 3 ราย ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่คาดว่าจะถูกหลอกให้ซื้อโทรศัพท์มือถือ ซึ่งได้มีการแจ้งความไว้ในพื้นที่ สน.หัวหมาก สน.บุคคโล และ สน.ห้วยขวาง ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบของตำรวจนครบาลที่เป็นเจ้าของคดี

ส่วนหมายจับขณะนี้ได้มีการออกหมายจับบัญชีม้า 3 ราย ในวานนี้นั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวอยู่ พบผู้ต้องหา 1 ราย ยังอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย ส่วนอีก 2 ราย มีความเคลื่อนไหวและย้ายที่อยู่ไม่ชัดเจน คาดว่าอาจจะหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่กำลังพยายามเร่งสืบสวนสอบสวน

พล.ต.ต.ชรินทร์ เผยอีกว่า ล่าสุดวันนี้เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 1 ราย เป็นผู้ร่วมขบวนการ แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียดว่าทำหน้าที่ส่วนไหนยังไง ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างขอศาลออกหมายจับ และจากการสอบปากคำ นางสาวดอกแก้ว ยังให้การเป็นประโยชน์ แต่เมื่อตรวจสอบโทรศัพท์มือถือพบว่า มีรายละเอียดบางอย่างไม่ตรงกับคำให้การ ส่วนบัญชีของนางสาวดอกแก้ว พบมี 3 บัญชี เป็นบัญชีที่ใช้ส่วนตัว แต่ก็พบว่ามี 1 บัญชี มีรายการโอนเงินจากเหยื่อที่โอนมาซื้อโทรศัพท์

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานในระหว่างนั่งรอพนักงานสอบสวน นางสาวดอกแก้ว มีสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ในอาการโศกเศร้าร้องไห้ตลอดเวลา โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 จะส่งนางสาวดอกแก้ว ไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ต่อไป