เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 20 ต.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านเลขที่ 43 บ้านโคกสูง หมู่ 6 ต.โนนธาตุ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของนาย พิชิต นาจันทร์ หรือ สด อายุ 27 ปี แรงงานไทยที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล และเสียชีวิตจากภาวะสงครามที่เกิดขึ้น โดยพบนางหมวย นาจันทร์ อายุ 57 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ร่ำไห้ด้วยความเศร้าเสียใจตลอดเวลา จนกระทั่งรถลำเลียงศพนายพิชิต ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงานนำร่างไร้วิญญาณมาถึง นางหมวยได้เดินมารับศพลูกชาย  ซึ่งญาติต้องประคองนางหมวย เพราะเหมือนจะเป็นลม ก่อนที่แม่จะปล่อยโฮออกมา พร้อมทั้งเรียกชื่อลูกชายด้วยเสียงสะอื้นไปทั้งน้ำตา

นายสุรศักดิ์ นาจันทร์ อายุ 34 ปี พี่ชายผู้ตาย ที่รอดชีวิตจากเหตุสงครามในประเทศอิสราเอล ซึ่งเดินทางกลับมาถึงบ้านเมื่อค่ำของเมื่อวาน ( 19 ต.ค.) ที่ผ่านมา และพ่อของผู้ตายช่วยกันทำพิธีรับศพมาตั้งศพภายในบ้าน โดยพี่ชายของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง  ขออนุญาตนำศพน้องชายตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจมีมีเสียงร้องไห้ของญาติพี่น้อง และชาวบ้านที่เดินทางมาร่วมงานศพระงมไปทั่วบริเวณบ้านหลังนี้ ซึ่งทันทีที่นางหมวย แสดงตัวยืนยันตามขั้นตอนการรับส่งศพเสร็จ ญาติญาติต้องช่วยกันประคองแม่หมวย กลับเข้าไปพักผ่อนภายในบ้าน เพื่อให้สงบสติอารมณ์เพราะเสียใจที่ลูกชาย กลับมาที่บ้านในร่างไร้วิญญาณ ก่อนที่พี่ชายผู้ตาย พ่อผู้ตาย และญาติจะเคลื่อนศพเข้ามาตั้งภายในบ้านเพื่อบรรจุเข้าโรงเย็น โดยจะมีการสวดอภิธรรมศพในเวลา 19.00 น. วันนี้เป็นคืนแรก

นายสุรศักดิ์  นาจันทร์ อายุ 34 ปี พี่ชายของนายสด กล่าวว่า ตนเองเป็นอีก 1 ในแรงงานไทย ที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล ห่างจากแคมป์คนงานที่น้องชายเสียชีวิตประมาณ  5 กม.โดยในช่วงเกิดเหตุคอยหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ทางการอิสราเอลเข้ามาช่วยเหลือ และมีการติดต่อประสานงานจนสามารถกลับมาถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย

“มันเร็วเกินไปน้องชายต้องจากไปเพราะเหตุสงครามหลังจากเดินทางมาทำงาน เพื่อเก็บเงินสร้างความฝันของตัวเองที่อยากจะมีบ้าน อยากมีที่เป็นของตัวเอง ช่วงที่ทำงานอยู่ในพื้นที่สีแดงนั้น มีการพูดคุยติดต่อกันตลอด ไปมาหาสู่กันเรื่อยๆเพราะระยะทางจากแคมป์ที่พักของตนเองกับน้องชายห่างกันไม่ถึง 5 กม.จนกระทั่งวันเกิดเหตุทุกคนต่างหนีเอาตัวรอด ผมก็เข้าไปหลบในหลุมหลบภัย และติดตามข่าวสารในโซเชียล ซึ่งพบว่ามีเพื่อนที่ทำงานส่งคลิปมาให้ดูบอกว่าเป็นน้องชายของตนเอง ซึ่งพอตนเองดูคลิป ก็มั่นใจว่าเป็นน้องชายเพราะจำรูปร่างท่าทางของน้องได้ และนอนเสียชีวิตภายในแคมป์คนงานโดยมีศพของนายพงศ์และนายยา 2 พี่น้องตระกูลกุสะรัมย์ เสียชีวิตอยู่ข้างกันด้วย ซึ่งหลังทราบเหตุการณ์พูดอะไรไม่ออก ได้แต่เสียใจก่อนจะมีการพูดคุยกับครอบครัวและเดินทางกลับมาที่ประเทศไทยเพื่อรอรับศพน้องในวันนี้”นายสุรศักดิ์