ถูกสนใจจากแฟนๆในโลกออนไลน์อย่างมากมายสำหรับการเปิดใจครั้งแรกของ ต้องเต ผู้กำกับภาพยนตร์ดังเรื่องสัปเหร่อ กับการเจอหน้ากับ น็อต วรฤทธิ์ ปมดราม่าการแต่งตัว พร้อมนำทีมนักแสดงมาเปิดใจกับความสำเร็จวันนี้หนังทะยานสู่ 500 ล้านบาท ผ่านรายการคุยแซ่บshow แบบจัดเต็ม

ต้องเต เผยว่า “กระแสตอบรับล้นหลาม ตั้งรับทันหรือยังจุดนี้ยังเลยครับ แค่นี้ก็เกินแล้วครับ ไปไหนมาไหนก็มีบ้างที่โดนรุมครับ ก็งงเหมือนกันครับ กับพี่น็อตที่เจอกันตามที่เห็นรายการเลยครับ แต่มันเป็นเรื่องไม่มีอะไรตั้งแต่ตอนแรก เราไม่คิดว่าจะโดนขุดมาเล่าปัจจุบันอย่างนี้ พี่เขาก็ได้ขอโทษในรายการ สรุปเลยว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรครับ ก่อนเข้ารายการก็คุยว่าเรื่องมันไม่มีอะไรจริงๆ ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น เขาก็ถามว่ารู้สึกยังไงว่าตอนที่เขามาสัมภาษณ์เกิดกระแสดราม่ารู้สึกยังไง ผมก็ยังไม่รู้เลยดราม่าอะไรกัน เอาจริงๆก็ไม่น่าจะเป็นดราม่านะครับ อย่าดราม่าเลยดีกว่า คอมเมนต์ที่เขาโกรธแทน ใจร้อนแทน เขารุนแรงแทนอย่างนี้ ตัวผมเองที่แบบโดนหรือได้ยินแบบนี้ ยังไม่รู้สึกว่าต้องโกรธอะไรตรงไหน จริงๆ ก็ได้นะครับ อย่างที่ออกเมื่อวานก็ตามความจริงเราใส่ชุดขาดไปก็กลัวเป็นประเด็นอีก หรือเราจะใส่ชุดดีเลยก็กลัวเป็นประเด็นอีก เราก็เลยเป็นตัวเองนี่แหละก็ใส่เสื้อคลุมที่ขาดไว้ ปรับเราให้อยู่ตรงกลางออกรายการเดี๋ยวมันจะเป็นประเด็นอีก”

ส่วนเรื่องแฟนของผมคือน้องณิชา ครับ อดีตมะยมหวาน เป็นเกิร์ลกรุ๊ปอีสาน เป็นศิลปินในค่ายเซิ้งนี่แหละครับ พอหนังประสบความสำเร็จเขาดีใจมาก เพราะว่าผมไม่ค่อยเก็บความกดดัน ความเหนื่อยมาอยู่ข้างๆ เขา เขาก็จะเป็นกำลังใจให้ คู่เราหวานไหม เขาหวานครับ เขาคลั่งรักมาก เขาดูแลทุกอย่างเลย อยากกินอะไรเขาทำให้ อยากได้อะไรเขาจัดการให้หมดเลย เราก็จะอยู่ของเรานิ่งๆ หน่อย ของผมรักครับ แต่รักจากข้างใน”

ต้องเต เล่าต่อว่า “เรื่องคุณอุ๊งอิ๊งประกาศเป็นซอล์ฟพาวเวอร์ เราไม่คิดด้วยซ้ำว่าเราจะมีการซัพพอร์ตจากหน่วยงานใหญ่ๆ ขนาดนี้ อย่างรัฐบาลมันเป็นเป้าหมายไกลมาก เรารู้สึกว่าเราเป็นค่ายหนังเล็ก ถ้าได้ทำหนังสักเรื่องอยากให้มีคนชอบ มีคนซัพพอร์ตเราด้วย มันก็มีจริงด้วย แล้วไม่ใช่แต่เรา มันเหมือนเราเป็นคนเล็กๆ ที่พูดแล้วเดี๋ยวนี้มันเป็นวงกว้างขึ้น อยากให้ซัพพอร์ตเรื่องอื่นๆ ด้วย จริงๆ ที่อยากได้รางวัล ไม่ได้อยากได้รางวัลของตัวเอง อยากให้รางวัลนี้มันเป็นกำลังใจให้กับนักแสดง ให้กับทีมงานเบื้องหลังที่เขาไม่ค่อยได้ออกหน้าสื่อ ให้เขาแบบ เห้ย..เราทำได้แล้วนะสิ่งที่เราช่วยกัน พอมันเป็นแบบนี้เรารู้สึกว่าเราได้เป็นแรงเล็กๆ ที่กำลังจะผลักดันวงการไป มันก็เลยรู้สึกดีมาก อย่างหนังนี้ผมมีความกดดัน เยอะครับ หนึ่ง แฟนคลับเขาคาดหวังมากๆ เพราะหนังเรื่องนี้มันควรทำตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว แต่ไทม์ไลน์มันผิดเพี้ยน มันเพิ่งได้ทำ แล้วสิ่งที่เขาต้องการอยากดูหนังผีตลก อยากดูนั้น ดูนี่ เราเข้าไปเขียนบทแรกๆ จะเขียนตามเขา หรือเขียนตามตัวตนของเรา พอเราเขียนตัวตนของเรา เราก็คิดว่าหนังเจ๊งแน่ๆ ก็กดดันอีกต้องยกความดี ความชอบให้พี่ศักดิ์ คนที่ปูจักรวาลมา พอแกมีลูก มีภาระเยอะหน่อย ผมก็เลยเข้ามาขอทำเรื่องนี้ ขอโอกาสทำหน่อย ส่วนนายทุนที่ซัพพอร์ตเราตั้งแต่แรก ก็ดีใจทั้งหมด ตอนแรกถ้าหนังเจ๊ง เราจะรับผิดชอบโดยการยืมเงินมาคืนเขา เพราะเราอยากรับผิดชอบความดื้อของเราที่รั้นทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ แต่พอมันเป็นแบบนี้รู้สึกโอเคแล้ว ทุกคนดีใจ ทุกคนมีความสุข เราดีใจมาก ได้ 500 ล้านเงินเป็นของนายทุนไหมอันนี้ ไม่ครับก็จะมีส่วนแบ่งนั่นนี่ ส่วนนักแสดงก็น่าจะมีโบนัส รางวัลขอบคุณ”

“ผมบนครับ แก้ด้วยการแต่งชุดนางรำ ที่ห้วยไร่ อารีน่า คือบ้านพี่ก้อง ตอนแรกเราไม่ได้บน พี่ก้องเขาบนก่อนว่าอยากให้หนังได้ 100 ล้าน เรารู้วึกว่าการบนของเขา เราไม่รู้ว่าหนังเราดีไหม กลัวเขาหมดศรัทธากับจอมปลวกข้างบ้านเขา ถ้ามันไม่ได้อันนี้โดนไถ่ออกแน่ งั้นบนให้ยอดมันน้อยลงดีกว่าเราเลยบน 50 ล้าน ฟิลพูดเล่น ผมก็เป็นคนดีอยู่นะ ถ้าได้ 50 ล้าน เดี๋ยวมารำให้ ไปรำวันที่ 30 นี้ พี่ก้องบนเยอะด้วย บนนางรำ 1-2 ร้อยคน ไปรำที่สกลนคร ส่วนแม่ต้องเตบนไว้ว่าถ้าได้จริงๆ จะวิ่ง 10 กิโล แม่อายุจะ 60 แล้วครับ เขาวิ่งเล่นอยู่แล้ว เขาเป็นนักวิ่งอยู่แล้ว เขาวิ่งมาราธอน แต่เขายังไม่แก้บน เขาเพิ่งโพสต์เมื่อวาน”

แพมมี่ เผยว่า ” เรื่องที่นายกฯเตรียมพา ครม.เข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ เอาจริงๆ ดีใจนะคะ มันเหมือนหนังของเราก็ประสบความสำเร็จไปอีกขั้นนึง ตอนแรกที่พี่ต้องเตแกคิดไว้ แกคิดแค่ว่าหนังเรื่องนี้อยากให้ทุกคนชอบเฉยๆ ไม่ได้หวังว่าเราจะเดินทางไกลมาถึง 500 ล้านขนาดนี้ คนชอบก็ดีใจแค่ไหนแล้ว เดินทางมาขนาดนี้ขอบคุณแฟนๆ นะคะที่ให้การต้อนรับพวกเราจักรวาลไทบ้านในภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อมากๆ