สวัสดีจ้า “ขาสั้น คอซอง” สัปดาห์นี้ จะพาไปพบกับ “ปลื้ม” กิตติศักดิ์ รอดประเสริฐ ปวช.ปี 2 วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ หนึ่งในเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่หลงรักการแสดงโขน มุ่งมั่นฝึกฝนการแสดงโขนมาตั้งแต่ตอนเรียนระดับชั้นอนุบาล แถมล่าสุดยัง ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในเยาวชนที่เป็นนักพากย์-เจรจา โขนพระราชทานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการแสดงโขน เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน “กุมภกรรณทดน้ำ” ระหว่างวันที่ 5 พ.ย.-5 ธ.ค. 2566 ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย อีกด้วย

“ปลื้ม” เล่าว่า เติบโตในครอบครัวคนโขน มี คุณตาบุญเหลือ แซ่คู หัวหน้าคณะโขนสด คณะประยุทธ ดาวใต้ กรุงเทพฯ เป็นผู้ฝึกสอน จึงได้เริ่มเรียนรู้และฝึกหัดเล่นโขนสดตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล เมื่อโตขึ้นอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้หัดรำ หัดออกหน้าพาทย์ หัดร้องโขนสด และหัดแสดงเป็นตัวยักษ์ ลิง และหมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ พออายุ 15 ปีก็ได้ออกแสดงเป็นยักษ์ เช่น ยักษ์อาสา ยักษ์กองลาดตระเวนและลิง ซึ่งโขนสดเป็นการแสดงพื้นบ้านที่นำศิลปะหลายแขนงมารวมไว้ นักแสดงแต่งหน้าเหมือนลิเก ใส่หัวโขนประมาณครึ่งหน้าผาก ใช้เพลงหน้าพาทย์เชิด มีการร้องเอง พูดเอง เล่นเสียงและด้นกลอนไปเรื่อยๆ และการเต้น เช่น ท่ายักษ์ ท่าลิง จะมีท่าของโขนสด ทำให้โขนสดมีความยากทั้งการร้อง การเต้น และที่ยากที่สุดคือ การเล่นดนตรีให้จังหวะเพราะต้องรู้ว่าพระ นาง ยักษ์ เต้นจังหวะช้า และลิงเต้นจังหวะเร็ว

ด้วยความรักการแสดงโขนเป็นชีวิตจิตใจ หลังเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 “ปลื้ม” ได้เลือกเข้าเรียน สาขานาฏศิลปไทย วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และฝึกพากย์โขนกับ ครูสุธีร์ ชุ่มชื่น อาจารย์วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เป็นเวลา 2 ปี กระทั่งได้รับโอกาสสำคัญในชีวิตโดย ได้รับคัดเลือกจากครูสุธีร์ให้เป็นหนึ่งในนักพากย์-เจรจา ในการแสดงสุดยิ่งใหญ่อลังการแห่งปี โขนพระราชทานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอน “กุมภกรรณทดน้ำ” โดย “ปลื้ม” ได้พากย์เป็นตัว “พระราม”

“ปลื้ม” บอกว่า เริ่มฝึกซ้อมพากย์สำหรับการแสดงดังกล่าวมาตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค.จนถึงปัจจุบัน ซึ่งต้องปรับตัวเยอะ เพราะการพากย์โขนสด เป็นการพูดธรรมดา ไม่ได้มีทำนอง ขณะที่โขนพระราชทานฯ ต้องพากย์เป็นทำนอง มีจังหวะ ต้องทำเสียงตามบุคลิกและอารมณ์ของตัวละคร เช่น ตัวพระเสียงเข้มแข็ง ตัวยักษ์เสียงดุดัน ตัวลิงเสียงว่องไว เมื่อพากย์ตัวพระราม จึงต้องฝึกเสียงให้มีพื้นฐานและมีพลัง รวมทั้งฝึกพากย์เจรจา การเดินทำนอง เช่น พากย์รถ ชมความงามของราชรถที่มุ่งหน้าจากสถานที่หนึ่งไปสถานที่หนึ่ง การเจรจาโต้ตอบกัน

“เป็นครั้งแรกที่เข้ามาร่วมแสดงโขนพระราชทานฯ ไม่คิดว่าตัวเองจะเข้ามาได้ ตอนเด็กเคยมาดู ใฝ่ฝันว่าสักวันจะได้มายืนอยู่บนเวทีการแสดงนี้ ก็ได้มายืนอยู่บนเวทีนี้จริงๆ เป็นเวทีใหญ่ที่สุดของชีวิต ปกติจะพากย์โขนตามงานของวิทยาลัยนาฏศิลป รู้สึกภูมิใจมากได้ทำสิ่งที่รักและฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก และมีโอกาสสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์โขนศิลปะการแสดงอันงดงามของชาติด้วย” “ปลื้ม” กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“ปลื้ม” นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างเยาวชนไทยที่มีใจรักในการแสดงโขนและตั้งใจที่จะสืบสานอนุรักษ์ศิลปะการแสดงโขน ซึ่งเป็นมรดกศิลปวัฒนธรรมล้ำค่าของชาติให้คงอยู่ต่อไป…