เมื่อวันที่ 20 พ.ย. นายสิริพงศ์  อังคสกุลเกียรติ  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ และโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายให้สถานศึกษาทุกแห่งเป็นสถานศึกษาแห่งความสุขและมีความปลอดภัย ประกอบกับในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงการเปิดภาคเรียน และมีเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นกับผู้เรียนหลายครั้ง ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกัน ดูแล และช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งพลตำรวจเอก เพิ่มพูน  ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้สั่งการให้นายยศพล  เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้เน้นย้ำสถานศึกษาอาชีวศึกษาให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของผู้เรียน โดยได้ขอความร่วมมือสถานศึกษาทุกแห่งให้ปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางการสร้างความปลอดภัยของผู้เรียน ดังนี้  ห้ามมีกิจกรรมหรือการรวมกลุ่มเพื่อการรับน้องใหม่ทั้งในและนอกสถานศึกษาโดยเด็ดขาด  ให้งานปกครอง งานครูที่ปรึกษา และครูทุกแผนกมีข้อมูลผู้เรียนรายบุคคล ต้องมีมาตรการคัดกรองผู้เรียน และให้การดูแลใกล้ชิดกับผู้เรียนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการก่อเหตุความรุนแรง ยาเสพติด และเรื่องชู้สาวเป็นกรณีพิเศษ โดยต้องมีมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยร่วมกับผู้ปกครอง ชุมชน สถานประกอบการ และบุคลากรในสถานศึกษา

โฆษก ศธ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้การนำนักเรียน นักศึกษาไปนอกสถานศึกษาต้องปฏิบัติตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่องมาตรการความปลอดภัยในการพานักเรียน นักศึกษาไปนอกสถานศึกษา สถานศึกษาทุกแห่งต้องเป็นสถานศึกษาปลอดบุหรี่ โดยให้ปฏิบัติตาม 7 มาตรการ เพื่อสถานศึกษาปลอดบุหรี่ โดย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และหากมีเหตุความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นกับผู้เรียนทั้งในและนอกสถานศึกษา ต้องแจ้งเหตุการณ์ดังกล่าวให้เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทราบโดยเร็วที่สุด และให้ดำเนินการแจ้งเป็นเอกสารทางราชการมายังศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาด้วย ทั้งนี้ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ฝากข้อห่วงใยถึงสถานศึกษาทุกแห่งให้วางมาตรการและแนวทางการสร้างความปลอดภัย โดยให้มีการตรวจเข้มอาวุธและยาเสพติดในสถานศึกษา ตลอดจนการจัดครูและการตรวจเวรยามในพื้นที่จุดเสี่ยงด้วย