เมื่อวันที่ 20 ก.ย. นายณัฐชา​ บุญไชยอินสวัสดิ์​ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง​ การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน​ กล่าวว่าภายหลัง กมธ. แถลงข่าวเปิดหลักฐานรายงาน เหตุยิงผู้ชุมนุมหน้า สน. ดินแดง ​ผ่านมาเป็นเวลาถึง 5 วันแล้ว จนขณะนี้ยังไม่มีการชี้แจงความคืบหน้าหรือมีคำตอบเพิ่มเติมรวมถึงไม่มีการติดต่อจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอข้อมูลและรายงานฉบับดังกล่าวเพื่อ​ไปดำเนินการต่อ ทั้งที่หลักฐานที่รวบรวมมานั้นค่อนข้างชัดเจนซึ่งข้อมูลจากกล้องวงจรปิดชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงว่า เป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลเดียวกัน และเมื่อมีข้อมูลปรากฏชัดเจนว่ามีกลุ่มบุคคลอยู่ในพื้นที่ควบคุมดูแลเฉพาะของเจ้าหน้าที่ แต่ทำไมเวลาผ่านมาหนึ่งเดือนเต็ม ยังหาตัวคนกลุ่มนี้ไม่ได้ เปรียบเทียบกับกรณีของผู้ชุมนุมอื่นๆ แค่มีภาพปรากฏในกล้องวงจรปิดตำรวจสามารถหาตัวและตามไปถึงบ้านได้ทุกครั้ง ทำไมพอเป็นกรณีที่คาดมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องจึงดำเนินการล่าช้า ไม่มีความกระตือรือร้นเหมือนกรณีที่ต้องการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม

“กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ได้ตั้งคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง และมีการเปิดเผยรายงานจากการรวบรวมหลักฐานกล้องวงจรปิด 54 ตัว ในบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่ข้างเคียง รวมถึงได้สัมภาษณ์ผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่เด็กชาย A อายุ 14 ปี ถูกยิงหน้าปากซอยประชาสงเคราะห์ 14 กระสุนเข้าบริเวณหัวไหล่ด้านหลัง ทะลุออกด้านหน้า และเด็กชาย B อายุ 15 ปี ถูกยิงบนถนนฝั่งตรงข้าม สน.ดินแดง กระสุนเข้าบริเวณคอ และฝังอยู่ใกล้แกนสมอง ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในอาการโคม่าและครอบครัวยังคงรอความยุติธรรมจากเจ้าหน้าที่ในการติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีจนถึงตอนนี้”​ นายณัฐชา กล่าว

ทั้งนี้ นายณัฐชา กล่าวว่า ในส่วนของกรรมาธิการได้มอบรายงานฉบับดังกล่าวให้ครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว รวมถึงได้ดำเนินการส่งมอบรายงานฉบับดังกล่าวไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงใจกับการสืบหาความจริง​ ด้วยข้อมูลที่ชัดเจนขนาดนี้ควรมีความคืบหน้าและสามารถชี้แจงต่อประชาชนได้ หรือถ้ามีข้อสังเกตใดที่ติดใจและต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมน่าจะมีการติดต่อเข้ามาที่ กมธ.ไม่ใช่แกล้งตีเนียนไปแถลงแต่เรื่องการชุมนุมรายวันแล้วปล่อยให้ความจริงหายเงียบไปแบบนี้ ตนขอเรียกร้องไปยัง ผบ.ตร.ออกมาให้คำตอบต่อกรณีนี้ ประชาชนอยากรู้ว่ากลุ่มบุคคลที่ไปปรากฏตัวหน้า สน.ดินแดง คือใคร หรือสรุปแล้วตำรวจจะไม่รับผิดชอบต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นเลยใช่หรือไม่​.