สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ว่า ดับเบิลยูเอชโอ ระบุในแถลงการณ์ที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ ว่า หน่วยงานส่งคำร้องอย่างเป็นทางการไปยังจีน เพื่อขอข้อมูลโดยละเอียด เกี่ยวกับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจที่เพิ่มขึ้น และรายงานโรคปอดบวมในกลุ่มเด็ก

นอกจากนี้ ดับเบิลยูเอชโอ กล่าวเสริมว่า นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ภาคเหนือของจีนมีรายงาน “อาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่” เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับของ 3 ปีที่แล้ว

อนึ่ง ทางการจีนระบุในการแถลงข่าว เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ว่า อาการป่วยเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการยกเลิกมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 และการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่ทราบ เช่น เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ และการติดเชื้อแบคทีเรียที่ส่งผลกระทบต่อเด็ก

อย่างไรก็ตาม ดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า มันยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า รายงานโรคปอดบวมในเด็ก ทางตอนเหนือของจีน มีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อที่ถูกพูดถึงในงานแถลงข่าวของทางการจีนหรือไม่ และหน่วยงานกำลังขอคำชี้แจงจากรัฐบาลปักกิ่งอยู่

“ดับเบิลยูเอชโอ ยังขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มล่าสุด ในการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่ทราบ ไม่ว่าจะเป็น ไข้หวัดใหญ่, เชื้อไวรัส SARS-CoV-2, เชื้อไวรัสอาร์เอสวี ที่ส่งผลต่อเด็กทารก และเชื้อไมโคพลาสมา นิวโมเนีย รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับระดับความแออัดในระบบสุขภาพ” แถลงการณ์ ระบุเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน ดับเบิลยูเอชโอ เรียกร้องให้ประชาชนชาวจีน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันต่าง ๆ เช่น การฉีดวัคซีน, การเว้นระยะห่างจากผู้ป่วย, การอยู่ที่บ้านเมื่อมีอาการป่วย, การล้างมือเป็นประจำ และการสวมหน้ากากอนามัยตามความเหมาะสม.

เครดิตภาพ : AFP