แล้วใครบ้างที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคไข้เลือดออก และจะมีวิธีป้องกันโรคนี้อย่างไร มาดูคำตอบกันได้เลย!
โรคไข้เลือดออกเกิดจากอะไร?
โรคไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) ซึ่งมี 4 สายพันธุ์ ได้แก่ 1, 2, 3, และ 4 มีกลไกการเกิดโรคจากการที่ยุงลายตัวเมียกัดคนที่มีเชื้อไวรัสเดงกีอยู่ในกระแสเลือด ทำให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ต่อมน้ำลายของยุง เมื่อไปกัดคนถัดไป เชื้อไวรัสจะเข้าสู่กระแสเลือดและแพร่กระจายไปตามร่างกาย เชื้อไวรัสจะก่อให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือด ทำให้เลือดออก และอาจทำให้อวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลวได้
เช็กด่วน! กลุ่มเสี่ยงโรคไข้เลือดออก
ทุกคนสามารถติดเชื้อโรคไข้เลือดออกได้ แต่ก็มีผู้ที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงโรคไข้เลือดออกที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่า ได้แก่
- เด็กเล็ก เนื่องจากร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสเดงกีน้อยกว่าผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มียุงลายชุกชุม เช่น เขตชนบท ชุมชนแออัด พื้นที่ที่มีน้ำขัง
- ผู้ที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในสถานที่ที่มีน้ำขัง เช่น สวน ป่า โรงงาน
- ผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก เนื่องจากร่างกายอาจมีเชื้อไวรัสเดงกีสายพันธุ์ที่พบในประเทศนั้นอยู่
วิธีป้องกันโรคไข้เลือดออกอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีป้องกันโรคไข้เลือดออกที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้ยุงลายกัด โดยสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เช่น ภาชนะใส่น้ำขัง เศษวัสดุต่าง ๆ ในที่ร่ม เปลี่ยนน้ำในแจกันดอกไม้ กระถางต้นไม้ ถังเก็บน้ำ รวมถึงภาชนะที่มีน้ำขังอื่น ๆ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
- เก็บกวาดบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ให้มีมุมอับชื้นที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
- ทายากันยุงตามผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณแขน ขา ลำคอ
- สวมเสื้อผ้าที่ป้องกันยุงกัด เช่น เสื้อผ้าแขนยาว ขายาว เสื้อผ้าสีอ่อน
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก ซึ่งมีประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงของโรคได้
- ซ่อมแซมหลังคา ท่อน้ำ ไม่ให้มีน้ำขังจนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
โดยทั่วไป อาการของโรคไข้เลือดออกมักปรากฏขึ้นหลังจากได้รับเชื้อ 4-7 วัน ไม่ว่าคุณจะเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคไข้เลือดออกหรือไม่ หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
- ไข้สูงเฉียบพลัน 38-40 องศาเซลเซียส
- ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดกล้ามเนื้อ
- คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร
- ตาแดง
- มีจุดเลือดออกตามผิวหนัง เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน
หากเป็นไข้เลือดออกแล้วไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น ภาวะช็อคจากเลือดออก ภาวะไตวายเฉียบพลัน ภาวะตับวายเฉียบพลัน และอาจเสียชีวิตได้
หากคุณเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคไข้เลือดออก อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยป้องกันโรคไข้เลือดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง