จากกรณี ปรากฏหนังสือเอกสารทางราชการตราครุฑ จำนวน 2 ฉบับ ที่ออกโดย นายยุทธนา (สงวนนามกุล) ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ออกให้ไว้เพื่อรับรองว่า น.ส.ลำไย (สงวนนามสกุล) มีบ้านพักอยู่ในเขตพื้นที่ ต.บางเสร่ ปัจจุบันได้ครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ดิน 45 ไร่ อีกฉบับ 50 ไร่ รวม 95 ไร่ บริเวณหลังหมู่บ้านบุรารัญ หมู่ที่ 6 ต.บางเสร่ เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2563 โดยทิศเหนือติดกับที่ดินมีโฉนด ทิศใต้ติดกับเขากระทิง ทิศตะวันออกติดกับที่ดินมีโฉนด และทิศตะวันตกติดกับที่ดินมีโฉนด โดยมีรายละเอียด ตามรูปภาพแผนที่ ที่แนบมาด้วยด้านหลัง ลงนามลายมือชื่อ (นายยุทธนา) ออกให้ไว้ ณ วันที่ 12 มิ.ย. 65 แต่เมื่อหน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย อำเภอสัตหีบ สำนักงานที่ดินสัตหีบ เทศบาลตำบลเกล็ดแก้ว และกองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ลงพื้นที่ตรวจสอบกลับพบว่า บริเวณดังกล่าว เป็นพื้นที่เขากระทิง อยู่ในเขตทรงสงวนดูแลโดยกองทัพเรือ และไม่มีผู้ใดมีเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึง กองทัพเรือ ไม่ได้อนุญาตให้ใครเข้ามาทำประโยชน์ ซึ่งมีการพบว่า มีการบุกรุกแผ้วถางป่า ตัดเส้นทางทำถนนรอบเขา และปรับพื้นที่ทำการเกษตร สร้งความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ไร่

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พ.ย. มีรายงานว่า นายสุนทร มูเนาวาเราะ นายอำเภอสัตหีบ ได้ออกหนังสือคำสั่งเลขที่ 472/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่ปรากฏสื่อสังคมออนไลน์ ว่าผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ออกหนังสือรับรองครอบครองสิทธิที่ดินโดยออกหนังสือตราครุฑ รับรองโดยกลุ่มคนมีสี ร่วมมือกับผู้อ้างสิทธิครอบครองที่ดินโดยรอบเขากระทิง บุกรุกเกือบ 100 ไร่นั้น เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 62 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน ประกอบมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พุทธศักราช 2457 แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน อำเภอสัตหีบ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว

โดยแต่งตั้งปลัดอำเภอรวม 5 นาย ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี นายยุทธนา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.บางเสร่ ออกหนังสือตราครุฑรับรองครอบครองสิทธิที่ดิน บริเวณพื้นที่โดยรอบเขากระทิง โดยรายงานผลดำเนินการให้นายอำเภอทราบภายใน 15 วัน สั่งไว้ ณ วันที่ 23 พ.ย. 66