เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.สงขลา ทางเรือหลวงเทพา ซึ่งเป็นกองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 2 พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษและทีมแพทย์ ฝ่าคลื่นลมและสูง 2-3 เมตร กลางทะเลอ่าวไทย ไปช่วยเหลือลูกเรือยอดขุนพล 3 ของบริษัท เเมนเอฟิชเชอรี่ ขนาด 250 ตันกรอส ที่ระบบขับเคลื่อนชำรุดไม่สามารถควบคุมเรือได้ จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือมายังทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อขออพยพลูกเรือพร้อมผู้โดยสารของเรือที่จอดลอยลำ ท่ามกลางคลื่นลมอยู่กลางทะเลอ่าวไทย และกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่ นายคุณชญานนท์ พันธุ์รัตน์ ผู้ดูแลเรือยอดขุนพล 3 พร้อมลูกเรือและผู้โดยสาร ที่เดินทางไปกับเรือลำนี้จำนวน 21 คน เป็นลูกเรือประจำเรือ จำนวน 15 คน อาจารย์ภาควิชาประมงสงขลา 1 คน นักศึกษาภาควิชาประมงสงขลา 2 คน ชาวต่างชาติ 3 คน และออกเรือจากท่าเทียบเรือเซ้าท์เธิร์น สงขลา เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อทดสอบอุปกรณ์สำรวจชั้นดิน และได้เกิดเหตุระบบขับเคลื่อนชำรุด ไม่สามารถควบคุมเรือได้

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ทางศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 หรือ ศรชล.ภาค 2 ได้รับการประสานขอรับการสนับสนุนเรือ เพื่ออพยพลูกเรือพร้อมผู้โดยสารของเรือยอดขุนพล 3 ซึ่งจอดเรือจอดลอยลำอยู่กลางทะเล ระยะ 32 ไมล์ จากปากร่องน้ำสงขลา

พล.ร.ท.พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 จึงได้สั่งการให้กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 2 จัดเรือหลวงเทพา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 2 พร้อมทีมแพทย์ทัพเรือภาคที่ 2 ออกเรืออย่างเร่งด่วน เพื่อไปช่วยเหลือเรือลำนี้ทันที เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรงมาก โดยได้เคลื่อนย้ายลงเรือหลวงเทพา 14 คน จากทั้งหมด 21 คน ประกอบด้วยชาวต่างชาติ 3 คน อาจารย์ภาควิชาประมง 1 คน นักศึกษาภาควิชาประมงสงขลา 2 คน และลูกเรือประจำเรือ 8 คน ส่วนลูกเรืออีก 7 คน ยังคงอยู่เฝ้าเรือเพื่อรอเรือลากจูงที่ทางบริษัทฯ ได้ว่าจ้างไปลากเรือกลับเข้าฝั่ง และพาทั้งหมดนำกลับเข้าฝั่งเข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือ ฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 เมื่อช่วง 2 ทุ่ม เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้อย่างปลอดภัย