สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 3 ม.ค. เกี่ยวกับความคืบหน้า หลังเกิดเหตุชายคนหนึ่งใช้อาวุธมีคม แทงเข้าไปที่ลำคอของนายอี แจ-มยอง ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปไตย ระหว่างการลงพื้นที่การก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ บนเกาะกาด็อก ของเมืองปูซาน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา


พรรคประชาธิปไตยออกแถลงการณ์ ว่าอาการของนายอี วัย 59 ปี พ้นขีดอันตรายแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการพักฟื้น โดยนายอีเข้ารับการรักษาอาการ ที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยปูซานก่อน จากนั้นมีการส่งตัวนายอีด้วยเฮลิคอปเตอร์ มายังโรงพยาบาลในกรุงโซล เพื่อเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งใช้เวลานานประมาณ 2 ชั่วโมง


ทั้งนี้ การที่บาดแผลเกิดขึ้นบริเวณหลอดเลือดดำ ช่วยให้นายอีไม่ได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต เนื่องจากหากบาดแผลเกิดขึ้นที่หลอดเลือดแดง ผู้นำฝ่ายค้านของเกาหลีใต้อาจเสียชีวิตในที่เกิดเหตุแล้ว


ขณะที่สำนักงานตำรวจเมืองปูซานออกแถลงการณ์ ว่าคนร้ายซึ่งถูกจับกุมในที่เกิดเหตุ เป็นชายอายุประมาณ 60 ปี ใช้อาวุธเป็นมีดที่มีความยาวทั้งด้ามประมาณ 18 เซนติเมตร แต่เฉพาะใบมีดมีความยาว 13 เซนติเมตร ซึ่งซื้อมาจากอินเทอร์เน็ต


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาพยายามฆ่ากับชายคนดังกล่าว ซึ่งทำทีเข้าไปขอลายเซ็นจากนายอี ก่อนสบโอกาสใช้มีดแทงเข้าที่ลำคอของอีกฝ่าย ด้านการสอบปากคำในเบื้องต้นระบุว่า คนร้ายยืนยัน “มีความพยายามฆ่า” นายอี แม้ตัวเองมีจุดยืนทางการเมืองสนับสนุนพรรคประชาธิปไตย


ด้านประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ผู้นำเกาหลีใต้ กำชับให้ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งกล่าวว่า ขอให้นายอีพ้นขีดอันตราย และมีอาการดีขึ้นในเร็ววัน


อนึ่ง นายอีและผู้นำเกาหลีใต้แข่งขันกันอย่างสูสี ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อปี 2565 ซึ่งนายอีเป็นฝ่ายปราชัยด้วยคะแนนเสียงฉิวเฉียด อย่างไรก็ตาม เมื่อรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน นายอีถูกสอบสวนอย่างหนักในหลายเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชัน.

เครดิตภาพ : AFP