เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ นายแพทย์นพดล พิษณุวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ มอบประกาศเกียรติคุณ และหรีดเคารพศพ ให้แก่ ด.ช.ธนกฤติ ภาโนมัย อายุ 4 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 1 ต.วังหิน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ที่เสียชีวิต และญาติได้บริจาคดวงตาให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาทางด้านสายตาให้สามารถมองเห็นได้ถึง 2 คน โดยมีพ่อ-แม่ และญาติของผู้เสียชีวิต เป็นตัวแทนรับมอบ ณ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์

นางสาววารุณี และนายธนวัฒน์ ภาโนมัย พ่อแม่ของ ด.ช.ธนกฤติ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ลูกชายบ่นว่าปวดหัวและมีอาการอาเจียนเล็กน้อย ตนจึงได้พาไปตรวจที่โรงพยาบาลวังโป่ง แต่อาการไม่ดีขึ้น เริ่มบ่นว่ามีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง จนบางครั้งใช้มือทุบไปที่หัวของตนเอง รวมทั้งมีอาการซึม โรงพยาบาลวังโป่ง จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ แพทย์ได้ทำการเอกซเรย์ด้วยเครื่อง CT สแกน จึงพบว่าในกะโหลกมีปริมาณน้ำมากผิดปกติ และพบก้อนเนื้อขนาดใหญ่ที่บริเวณสมองด้านหลัง โดยก้อนเนื้อได้กดทับเนื้อสมองจนสมองตายไปบางส่วน จึงได้ทำการเจาะเพื่อระบายน้ำออกจากสมอง แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น กระทั่งหมอมาแจ้งว่าลูกชายมีภาวะสมองตาย ซึ่งทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว ตนจึงเอ่ยปากถามคุณหมอว่า ร่างกายและอวัยวะของลูกชาย จะสามารถนำไปช่วยเหลือหรือบริจาคได้หรือไม่ เพราะตนเห็นว่าอยากจะทำบุญใหญ่ให้ลูกชาย ซึ่งหมอก็ได้แจ้งว่า สามารถบริจาคได้เพียงกระจกตาทั้ง 2 ข้างเท่านั้น เนื่องจากติดข้อจำกัดหลายอย่าง ตนจึงได้บริจาคกระจกตาให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อที่จะนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่น เป็นการทำบุญให้ลูกเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อที่ผลบุญจะได้ส่งให้ลูกชายไปอยู่ในภพภูมิที่ดี

พ่อแม่ของ ด.ช.ธนกฤติ เปิดเผยอีกว่า ตามปกติลูกชายมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วยถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลเลย กำลังเรียนอยู่ระดับชั้นอนุบาล เป็นเด็กที่ร่าเริงแจ่มใส ชอบแสดงออก เป็นที่รักของเพื่อนๆ ในห้องเรียน กระทั่งวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ไปเที่ยวและร่วมงานวันเด็กของโรงเรียน หลังจากกลับมาแล้วลูกชายบ่นว่าปวดหัวและมีอาการอาเจียนเล็กน้อย ตนจึงได้พาไปตรวจที่โรงพยาบาล ไม่คิดเลยว่าจะเป็นการเข้าโรงพยาบาลครั้งแรก และเป็นครั้งสุดท้าย

นายแพทย์นพดล พิษณุวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า คนไข้มาด้วยอาการปวดหัวอย่างรุนแรง แพทย์จึงได้รีบนำเข้าเครื่อง CT สแกน จึงทำให้พบว่าสมองส่วนท้ายทอยมีก้อนเนื้อกดทับอยู่จนเนื้อสมองบางส่วนตาย จึงได้ให้การรักษาและดูแลอย่างเต็มความสามารถ แต่เนื่องจากคนไข้เกิดภาวะสมองตาย ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว จึงได้เรียกพ่อกับแม่ของคนไข้มาพูดคุย ซึ่งพ่อกับแม่ของคนไข้ก็เข้าใจ และได้แจ้งความประสงค์ที่จะบริจาคอวัยวะทุกส่วนของลูกชาย เพื่อที่จะนำไปช่วยเหลือคนไข้รายอื่นๆ แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดของภาวะร่างกายของคนไข้ จึงสามารถบริจาคได้เพียงกระจกตาทั้ง 2 ข้าง อย่างไรก็ตาม ก็สามารถนำไปช่วยเหลือให้ผู้อื่น สามารถมองเห็นแสงสว่างได้อีกถึง 2 คน.