“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ทีมอันดับ 113 ของโลก จะลงสนามพบ “เหยี่ยวมรกต” ซาอุดีอาระเบีย อันดับ 56 ของโลก และเบอร์ 5 เอเชีย ในนัดสุดท้ายรอบแรก กลุ่ม F ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์ โดยเตะที่ เอดูเคชั่น ซิตี สเตเดี้ยม วันที่ 25 ม.ค.67 เวลาไทย 22.00 น ถ่ายทอดสดทาง PPTV HD 36 และ T-Sports 7

ทีมชาติไทยผ่าน 2 เกมแรก ชนะ คีร์กีซสถาน 2-0 และเสมอ โอมาน 0-0 ส่วน ซาอุฯ เข้ารอบแน่นอนแล้ว จากการชนะ 2 เกมรวด สำหรับทีมไทย ถ้าชนะจะแซงเข้ารอบเป็นอันดับ 1, ถ้าเสมอ การันตีเข้ารอบเป็นอันดับ 2 แต่ถ้าแพ้ ก็มีโอกาสสูงเข้ารอบอันดับ 3

ทั้งนี้ หากไทยเฮี้ยนจัด แซงซาอุฯ คว้าแชมป์กลุ่ม จะไปพบรองแชมป์กลุ่ม E (จอร์แดน, เกาหลีใต้ หรือ บาห์เรน) เตะวันที่ 30 ม.ค. 67 เวลา 23.00 น. แต่หากได้อันดับ 2 ของกลุ่ม จะโคจรพบ อันดับ 2 กลุ่ม B คือ อุซเบกิสถาน เตะวันที่ 30 ม.ค. 67 เวลา 18.30 น. และถ้าเข้ารอบในฐานะอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีมจาก 6 กลุ่ม จะไปเจอ แชมป์กลุ่ม D คือ อิรัก วันที่ 29 ม.ค. เวลา 18.30 น.

ในการแถลงข่าวก่อนเกม โรแบร์โต มันชินี กุนซือซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า เกมกับทีมชาติไทยจะเป็นเกมที่ยาก เพราะ 2 นัดที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าเล่นได้ดี แต่จะจัดทีมแบบไหนก็ต้องมาดูเรื่องของสภาพความฟิตของผู้เล่นอีกทีว่าใครพร้อมลงเล่นบ้าง ซาอุฯ มีนักเตะ 26 คนที่ดีที่สุด และสามารถใช้งานได้ทุกคน แน่นอนว่าต้องเล่นเพื่อเป็นผู้ชนะ ไม่ได้มองถึงรอบต่อไป (ว่าจะเจอใคร) เพราะถ้าหากจะเป็นแชมป์ก็ต้องเอาชนะให้ได้ทุกทีม เกมนี้ต้องการเอาชนะให้ได้ก่อนแล้วหลังจากนั้นค่อยว่ากัน

“การจะไปถึงแชมป์เราจะต้องผ่านทีมที่ดีที่สุดทุกทีม ในแต่ละนัด ไม่ว่าจะเจอเกาหลีใต้, จอร์แดน หรือว่าบาห์เรน มีความยากเหมือนกันทั้งหมดอยู่ดี” มันชินี กล่าว

อ่านข่าว : ‘อิชิอิ’ยอมรับ ‘ช้างศึก’ต้องรับมากกว่าเดิม เกมเจอ ‘ซาอุ’

ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบีย ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย แน่นอนแล้ว เหลือเพียงว่าจะจบอันดับที่เท่าไหร่ ซึ่งมีทฤษฎีสมคบคิดอยู่เหมือนกันว่า กลุ่มนี้ อาจหนีการเป็นแชมป์กลุ่ม เพื่อหนีเกาหลีใต้ ทีมเต็ง ที่อาจจะได้อันดับ 2 ของกลุ่ม E

สำหรับ โรแบร์โต มันชินี ถือเป็นกุนซือมากดีกรี เคยพา แมนฯ ซิตี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2011-12 , อินเตอร์ มิลาน แชมป์กัลโช 3 สมัย และพาอิตาลี แชมป์ยูโร 2020