สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ว่า พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เนื่องในโอกาสครบรอบ 3 ปี การรัฐประหาร ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ว่ากองทัพจะยังคงดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อฟื้นคืนเสถียรภาพและความมั่นคงแห่งรัฐ


ขณะเดียวกัน พล.อ.มิน อ่อง หล่าย กล่าวถึงการสู้รบกับกองกำลังชาติพันธุ์ ว่ายังคงเกิดขึ้น แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติม แม้มีการประกาศหยุดยิงครั้งใหม่ร่วมกัน เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา และกล่าวว่า รัฐบาลทหารจะเพิ่มความสนับสนุนด้านทรัพยากร ให้กับกองกำลังติดอาวุธของภาคประชาชนทุกกลุ่ม ที่ยืนหยัดเคียงข้างภาครัฐ


ด้านสภากลาโหมและความมั่นคงแห่งรัฐของเมียนมาออกแถลงการณ์ ขยายระยะเวลาบังคับใช้คำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ ออกไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน “เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่กลับคืนสู่สภาวะปกติ และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับปฏิบัติการของภาครัฐ ในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย”


การดำเนินการดังกล่าว ซึ่งมีการต่อเวลาทุก 6 เดือน นับตั้งแต่วันรัฐประหาร 1 ก.พ. 2564 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 425 ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2551 ซึ่งกองทัพเป็นผู้บัญญัติเอง

ประชาชนสัญจรในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา 31 ม.ค. 2567


ทั้งนี้ มติขยายระยะเวลาบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินในเมียนมา เกิดขึ้นหลังการประกาศปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเกี่ยวกับพรรคการเมือง ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองและการส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยลดจำนวนสมาชิกขั้นต่ำจาก 100,000 คน ลงเหลือ 50,000 คน และพรรคการเมืองนั้นต้องดำเนินการตามรูปแบบและขั้นตอน หรือการหาเสียง ครอบคลุมอย่างน้อย 1 ใน 3 ของเขตเลือกตั้งที่ส่งผู้สมัคร ลดลงจากเดิมคือครึ่งหนึ่ง


ย้อนกลับไปเมื่อเดือน เม.ย. ปีที่แล้ว คณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมา ประกาศยุบพรรคการเมือง 40 พรรค หนึ่งในนั้นคือพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของซูจี เนื่องจากจดทะเบียนไม่ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด


เดิมรัฐบาลทหารของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย เคยยืนยันการจัดการเลือกตั้งทั่วไป “ในเดือน ส.ค. 2566” แต่ต่อมายอมรับว่า พื้นที่มากกว่าหนึ่งในสามยังไม่อยู่ในความควบคุมของกองทัพ “ได้อย่างเบ็ดเสร็จ” ด้วยเหตุนี้ การเลือกตั้งทั่วไปจึงยังไม่ควรเกิดขึ้น “ท่ามกลางความเร่งรีบ”.

เครดิตภาพ : AFP