จากกรณีตำรวจ บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. จับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา หรือตูน จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรค รทสช. หลังมีพฤติกรรมร่วมกันข่มขู่เรียกเงินจากอธิบดีกรมการข้าว เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียน ต่อมาได้ขยายผลรวบตัวนายเอกลักษณ์ วารีชล ผู้บงการและสนับสนุนนายศรีสุวรรณกระทำความผิด กับสอบปากคำเจ้าของบัญชีม้าที่ จ.อุตรดิตถ์ รายหนึ่ง ก่อนศาลจะอนุญาตให้นายเอกลักษณ์ ประกันตัวชั่วคราวออกไป ขณะที่ทางตำรวจปปป. ยังเดินหน้าเตรียมขอศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการดังกล่าวอีก 2 ราย พร้อมเปิดโปงดำเนินคดีแก๊งข่มขู่เรียกรับเงินเพิ่ม หลังผู้เสียหายรายอื่นๆ แจ้งเบาะแส ตามที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นบ้านพักอดีตภรรยาของนายเอกลักษณ์ ซึ่งพักอยู่กับบุตรชายวัย 4 ขวบ ภายในหมู่บ้านเพชรเกษม 3 ซอยเพชรเกษม 94 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. โดยเจ้าหน้าที่พบเอกสารต้องสงสัย สมุดบัญชีธนาคารของนายเอกลักษณ์ มียอดเงินเข้าบัญชี 1 แสนบาท แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ 5 หมื่นบาท จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำโทรศัพท์ของอดีตภรรยาผู้ต้องหาไปตรวจสอบด้วย เนื่องจากมีการลบแชตไลน์และแชตใน stories อยู่หลายสิบรายการ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากการสืบสวนพบผู้ต้องหารายนี้ชอบทำตัวลึกลับ แสดงตัวน้อยสุด ชอบแฝงตัวเข้าทำเนียบ หรือสภา เพื่อหาข้อมูลก่อนนำมาหาผลประโยชน์ และมักจะรับงานเป็นที่ปรึกษาโครงการ (ปั้นงบประมาณ) โดยใช้ความรู้ด้านเทคนิค ฝังปมหรือสร้างเงื่อนไขใน TOR เพื่อคอนโทรลโครงการตั้งแต่เริ่มของบประมาณ การร่วมประมูล จนกลุ่มตนเองได้งาน หลังจากนั้นก็จะเอาปม หรือเงื่อนไขที่แอบฝังไว้ใน TOR ส่งให้เพื่อนร่วมแก๊งไปตบทรัพย์ โดยที่เหยื่อแทบไม่รู้ตัว