เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคดีดังที่สะเทือนใจ และหดหู่ที่สุดตั้งแต่ช่วงต้นปีเลยก็ว่าได้ สำหรับคดี “น้องพร” สาวที่ไปแอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนร่วมงานอย่าง “ช่างกิต” หรือ กิตติโชติ วัย 37 ปี ก่อนที่ฝ่ายชายจะลงมือก่อเหตุลั่นไกสังหาร และอุ้ม “ใหม่” สามีน้องพร อายุ 33 ปี ไปทิ้งที่เลียบมอเตอร์เวย์

ซึ่งคดีนี้ตกเป็นประเด็นที่หลายคนต่างจับตาและสงสัยว่าจะ ร่วมกันลงมือฆ่าหรือไม่ เพราะมีทั้งภาพกล้องวงจรปิด ที่จับพฤติกรรมแปลกของน้องพรช่างกิต รวมถึงพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่ผุดมาใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ

โดยวันนี้ “ทีมข่าวเดลินิวส์ออนไลน์” จะขอพาทุกคนไปแกะรอยคดีปมปริศนาของ “ฆาตกรรมหนุ่มโรงงาน” ซึ่งต้นเรื่องเริ่มจาก…
– ช่วงเย็นของวันที่ 29 ม.ค. 2567 มีพลเมืองดีขับรถบนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ขาเข้า กทม. ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พบว่าเห็นคนนั่งมองหน้าอยู่ริมถนน ซึ่งก็วนรถกลับไปดูปรากฏว่าเจอศพ ก่อนแจ้งหน่วยงาน ซึ่งไม่พบเอกสาร หรือมือถืออยู่ในตัว เบื้องต้นตำรวจคาดว่าเป็นเหตุฆ่ากันตาย ก่อนมีการลงประกาศตามหาญาติในเพจเฟซบุ๊ก และพบว่าผู้ตายคือใหม่ ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตมานานแล้วกว่า 3 วัน อีกทั้งน้องพร (ภรรยาผู้ตาย) ได้เดินทางมาดูศพ แต่ไม่ได้มาคนเดียวเพราะมากับช่างกิต

– ในวันพบศพ “น้องพร” ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า “ไม่มีเรื่องชู้สาว แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ทำไมคนร้ายทำกับสามีตัวเองแบบนี้” ทั้งนี้ไม่ใช่แค่เธอที่ยืนยัน แต่พ่อของเธอซึ่งเป็นพ่อตาของผู้ตาย ก็ยืนยันเช่นเดียวกัน

– ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ก็พบหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้าน ช่วงวันที่ 27 ม.ค. 2567 “ใหม่” ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน ขณะที่มีรถเก๋งต้องสงสัยขับตาม และจี้ตูดพร้อมเปิดไฟสูงใส่ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่พุ่งเป้าว่า นี่คือรถผู้ก่อเหตุหรือไม่ ต่อมาทราบว่าคนขับคือ “ช่างกิต” และเพื่อนอีก 4 คน

– ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้จับกุม “ช่างกิต” และได้เริ่มให้การซัดทอดกลุ่มผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งมีชื่อ กรานต์, แท็บ, นิว และ โอ๊ต เพื่อเรียกให้มาสอบปากคำ ซึ่งทั้ง 4 คน ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจทันที

– โดยฝั่งของเพื่อนช่างกิต ที่นั่งอยู่ในรถเก๋งคันสีแดง “กรานต์” ได้ออกมาเล่ายืนยันความบริสุทธิ์ว่าวันที่เกิดเหตุ ช่างกิตโทรฯ มาชวนไปธุระด้วยกัน ไม่ได้เอะใจเพราะไปด้วยกันบ่อย และมีอีกหลายคนไปด้วย เขาได้ขับรถเข้าไปวนในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และทำให้ตนสงสัย เลยถามว่ามาทำไร “ช่างกิต” ก็บอกรอแป๊บ หลังจากนั้น นายใหม่ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกมาจากบ้าน ก่อนช่างกิตจะขับตามออกไป ทำให้เริ่มเอะใจตามไปทำไม ขับเบียดมอเตอร์ไซค์ นายใหม่ตกข้างทาง และพานายใหม่ขึ้นรถมา ซึ่งวันนั้นนายใหม่ยังหันมาถามว่า “พี่จับผมมาทำไม” โดยนายกรานต์ก็ตอบว่าพี่ ผมไม่รู้เหมือนกัน ผมโดนหลอกมา และก็ไปเอามอเตอร์ไซค์ แล้วเพื่อน ๆ ที่เหลือก็แยกย้ายกัน ซึ่งจะเหลือแค่ ช่างกิตและใหม่

– นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็พบหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ซึ่งเป็นภาพอู่ซ่อมรถของช่างกิต ปรากฏมีชายใส่เสื้อสีชมพูเข้ามาในอู่ และคาดว่าอาจจะเป็น กรานต์, แท็บ, นิว และ โอ๊ต แต่ทั้งหมดได้ออกมายืนยันความบริสุทธิ์แล้ว ซึ่งนายกรานต์งัดหลักฐานเป็นภาพวิดีโอว่าวันนั้นได้ไป นั่งดื่มเหล้ากับกลุ่มเพื่อนอื่นต่อ และได้แวะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ โดยนายกรานต์ สวมใส่เสื้อสีน้ำเงิน ไม่ได้ใส่เสื้อสีชมพู ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

– ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่เริ่มพุ่งเป้าไปที่ช่างกิต และแรงจูงใจต่าง ๆ ก่อนจะพบว่ามีเพื่อนร่วมงานของนายกิตและพร ออกมาเล่าว่า ช่างกิตมาบอกกับพวกเพื่อนว่าพรท้อง และดีใจมากจนตั้งชื่อลูกรอไว้แล้ว อีกทั้งยังขอให้เพื่อนช่วยตัดสติกเกอร์ชื่อลูกและชื่อพร เตรียมจะแปะติดท้ายรถ ประกอบกับกระแสข่าวเริ่มร้อนแรงขึ้น นักข่าวไปสัมภาษณ์พรว่าท้องกับช่างกิตจริงไหม? โดยพรตอบว่า “ไม่ท้อง ช่างกิตคิดไปเอง ที่เธอบอกช่างกิตว่าท้องเพราะอยากเรียกร้องความสนใจ” พร้อมยอมรับว่า ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันจริง นอกจากนี้ บนโลกออนไลน์ยังมีการขุดโซเชียลของช่างกิต พบว่าเคยโพสต์ข้อความเพ้อถึงผู้หญิงและมีรูปจับมือกับสาว ซึ่งใส่กำไลสีทองคล้ายกับกำไลข้อมือของสาวพร ขณะถูกสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้อีกด้วย

– ขณะเดียวกัน ทีมพิสูจน์หลักฐานจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบหาวัตถุพยาน เพื่อหาความเชื่อมโยงกับอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ รวมถึงวัตถุพยานอื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องในบ้านของช่างกิต พบ
1. กระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 6 นัด
2. เสื้อยืดสีเขียวแขนยาวจำนวน 1 ตัว ที่ใส่ไปในวันพบศพ
3. ครีม 1 กระปุก กับ 2 ขวดปั๊ม
4. สร้อยข้อมือเลส 1 เส้น
5. แหวนทองเหลือง 2 วง
6. ถุงเท้า 1 คู่
7. กล้องถ่ายรูป Canon 1 ตัว
8. โทรศัพท์ Vivo สีน้ำเงิน 1 เครื่อง
9. เคสโทรศัพท์ 4 อัน
10. กล่องใส่รองเท้า 1 กล่อง
เจ้าหน้าที่จึงนำกลับไปตรวจสอบ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุหรือไม่ 

คำรับสารภาพ “ช่างกิต”
– ก่อนวันลงมือประมาณ 6 วัน ได้ขับรถยนต์เก๋งสีเเดงไปวนเวียนอยู่ที่บ้านของใหม่ เพื่อซุ่มดูความเคลื่อนไหว
– ในคืนวันที่ 27 ม.ค. 2567 เวลาประมาณ 21.00 น. ได้นัดผู้ต้องหาทั้งหมดเข้ามารวมตัวกันที่อู่ และพาขับรถยนต์คันก่อเหตุ ตามไปจี้ใหม่และขับรถปาดหน้า พร้อมบังคับให้ขึ้นรถ โดยตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพเวลานั้นได้
– ยืนยันในรถนั่งกันไป 4 คน และอุ้มผู้ตายขึ้นรถที่ซอยจงศิริ พื้นที่บางพลี ซึ่งลงมือฆ่าก่อนจะเอาศพมาที่บ้านช่างกิต และให้ลูกน้องที่อยู่ ช่วยกันนำศพขึ้นรถกระบะตู้ทึบ และนำไปทิ้งที่เลียบมอเตอร์เวย์

ชนวนเหตุฆ่าทิ้ง 
“ช่างกิต” รับสารภาพว่า ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจริง และตอนนั้นไม่รู้ว่าพรมีสามีแล้ว เพราะฝ่ายหญิงบอกว่าโสด จนกระทั่งความสัมพันธ์เริ่มระแคะระคาย โดยพยายามนัดเคลียร์ใจกันในวันที่เกิดเหตุ แต่พรได้ส่งข้อความหาใหม่ ตอนนั้นรับว่าเกิดความโมโหมาก เลยเลือกลงมือก่อเหตุ

–  4 ก.พ. 67 วันพิธีฌาปนกิจใหม่ “น้องพร” ก็มางานและร้องไห้พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “คบกับใหม่มา 17 ปี เขาดูแลดีทุกอย่าง อยากกินอะไรก็พาไปกิน อยากไปไหนก็พาไป ไม่สบายก็เช็ดตัวให้ รองจากพ่อก็คือเขาที่ดีที่สุดในชีวิตแล้ว และพรรักป๊าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ พรขอโทษในสิ่งที่ผิดพลาดไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมา จนทำให้มันเป็นเรื่องแบบนี้” นอกจากนี้ยังยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของใหม่ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ถ้าผิดจริงก็ยินยอมรับผิดตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า “น้องพร” มีความผิดข้อหาร่วมกันฆ่าหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ และกำลังไขคดีนี้อย่างเร็วที่สุด….