สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ว่า ชาวปารีสที่ลงประชามติในสัดส่วน 54.55% เห็นชอบกับการเก็บค่าจอดรถยนต์ที่มีน้ำหนัก 1.6 ตันขึ้นไป เป็นจำนวนเงิน 18 ยูโรต่อชั่วโมง (ราว 693 บาท) ในพื้นที่ใจกลางเมือง หรือ 12 ยูโรต่อชั่วโมง (ราว 462 บาท) ในบริเวณอื่น

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะมีผลกับรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เต็มรูปแบบ ที่มีน้ำหนักเกิน 2 ตันเช่นกัน ส่วนประชาชนที่อยู่อาศัย หรือทำงานในกรุงปารีส, คนขับรถแท็กซี่, ผู้ค้าขาย, บุคลากรทางการแพทย์ และผู้พิการทุกคน จะได้รับการยกเว้น

ด้านองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ) เรียกรถเอสยูวีว่าเป็น “ความผิดปกติ” โดยให้เหตุผลว่า รถยนต์ประเภทนี้ เผาผลาญเชื้อเพลิงมากกว่ารถคูเป้คลาสสิกถึง 15% อีกทั้งมันยังมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า และมีราคาซื้อที่แพงกว่าด้วย

ขณะที่ศาลาว่าการกรุงปารีส ชี้ให้เห็นถึงความกังวลด้านความปลอดภัย เกี่ยวกับรถเอสยูวี ซึ่งสูงกว่า และหนักกว่ารถยนต์ทั่วไป เนื่องจากมันเป็นอันตรายต่อคนเดินถนน มากกว่ารถยนต์มาตรฐาน 2 เท่า ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ รถเอสยูวี ยังถูกออกแบบมาให้กินพื้นที่สาธารณะมากกว่ารถคันอื่น ไม่ว่าจะเป็นตอนที่วิ่งบนถนน หรือตอนที่จอดอยู่ก็ตาม

กระนั้น ชาวปารีสบางส่วน และนักการเมืองฝ่ายค้านสายอนุรักษนิยมในสภากรุงปารีส แสดงความไม่พอใจต่อมาตรการข้างต้น พร้อมกับกล่าวว่า การลงประชามติครั้งนี้ มีการกำหนดเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน อีกทั้งกลุ่มผู้ขับขี่ในฝรั่งเศส ยังระบุเสริมว่า รถเอสยูวีรุ่นใหม่ที่ทันสมัย ไม่ก่อให้เกิดมากกว่า หรือน้อยกว่ารถยนต์ดีเซลขนาดเล็ก ที่สร้างขึ้นก่อนปี 2554

อีกด้านหนึ่ง นายคริสตอฟ เบชู รมว.สิ่งแวดล้อมฝรั่งเศส กล่าวว่า การเก็บค่าธรรมเนียมรถเอสยูวีเพิ่มเติม ถือเป็น “การลงโทษทางสิ่งแวดล้อมรูปแบบหนึ่ง” แม้บรรดาผู้ขับขี่ควรเลือกใช้ “ยานพาหนะที่เบากว่า” ก็ตาม.

เครดิตภาพ : AFP