จากกรณีตำรวจทางหลวงพบรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวขับมาจอดซุกป่ายางข้างศูนย์พัฒนาที่ดินจังหวัดนครพนมบริเวณบ้านดงโชคหมู่ 6 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม หลังผู้ครอบครองรถแจ้งความรถและสามีหายตัวไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 67 และมีการพบรถจอดซุกบริเวณดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 67 เวลาประมาณ 17.30 น.

ซึ่งก่อนหน้านั้นภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายต้องสงสัยรูปร่างท้วมใส่แว่นกำลังขับรถคันดังกล่าวได้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะกำลังขับรถมุ่งหน้าขึ้นเหนือตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ต่อมาก็ปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านก๋วยเตี่ยวแห่งหนึ่งที่อำเภอโพนสวรรค์สามารถบันทึกภาพรถคันดังกล่าวได้อีก แต่คนขับมากลับเป็นหญิงสาวสองคนตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ความคืบหน้าวันที่ 9 ก.พ.  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเบาะแสจากเจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านดอนม่วง ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ว่ากล้องวงจรปิดของร้านสามารถบันทึกภาพหญิงสาวรูปร่างท้วม ใส่เสื้อสีขาวกางเกงขายาวสีดำใส่แว่น ซึ่งเป็นคนขับรถฟอร์จูนเนอร์มาพร้อมกับมีหญิงสาวรูปร่างผอมใส่เสื้อสีดำกางเกงยีนนั่งมาด้วยกันสองคน โดยทั้งคู่นัดกันมาทำผมที่ร้านเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. และเมื่อทำเสร็จก็ขึ้นรถขับออกจากร้านมุ่งหน้าไปทางอำเภอโพนสวรรค์ทันที ซึ่งทั้งคู่มีรูปร่างลักษณะเหมือนบุคคลตามที่ปรากฏในข่าว

หลังผู้สื่อข่าวตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ก็พบว่ารถคันดังกล่าวที่ได้มาจอดที่ร้านเสริมสวยเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 67 นั้นเป็นรถของนายขนบ  เสี่ยเจ้าของบ่อนไก่ชนจริง ซึ่งมีนางวันเพ็ญ หรือ เจ๊อ้วน อายุ 66 ปี ภรรยาหลวงเป็นผู้ครอบครองรถแจ้งความรถและคนหายไว้ที่ สภ.นาสัก ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 67

เจ้าของร้านเสริมสวย กล่าวว่า สองคนนี้เป็นลูกค้าประจำของที่ร้าน และได้นัดคิวมาเสริมสวยล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. 67 ว่าจะเข้ามาทำผมในวันที่ 4 ก.พ. เวลา 11.00 น.ซึ่งเมื่อมาถึงที่ร้านทั้งคู่ก็มีอาการปกติไม่ได้มีพิรุธอะไร และตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะมีลูกค้าทยอยมาต่อคิวทำผมอย่างต่อเนื่อง หลังทำผมเสร็จทั้งคู่ก็ขับรถคันนี้ออกไปในเวลา 14.00 น.

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านของหญิงสาวทั้งสอง ซึ่งทราบว่ามีพื้นเพอยู่ที่อำเภอโพนสวรรค์ จ.นครพนม โดยพบว่าบ้านของหญิงสาวที่นั่งข้างคนขับทราบชื่อคือ น.ส.นุ๊กเกอร์ เปิดเป็นร้านเสริมสวยทำเล็บซึ่งร้านตั้งอยู่ตรงข้ามกับบ้านของหญิงรูปร่างท้วมซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าวคือ น.ส.จุฑาภรณ์ อาชีพเป็นครูอัตราจ้างที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครพนม

โดยที่บ้านของน.ส.นุ๊กเกอร์ไม่มีคนอยู่บ้านประตูบ้านถูกปิดล็อกไว้ ภายในบริเวณบ้านมีรถเก๋งสภาพเก่าจอดอยู่ ทราบต่อมาว่าสามี น.ส.นุ๊กเกอร์ มีอาชีพรับจำนองจำนำรถยนต์และน.ส.นุ๊กเกอร์ มักจะขึ้นไปขับรถจากกรุงเทพฯ ลงมาในพื้นที่ จ.นครพนม อยู่บ่อยครั้งขณะที่บ้านของ น.ส.จุฑาภรณ์ คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ก็ไม่มีใครอยู่เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางมาสอบถามที่โรงเรียน ซึ่งเป็นที่ทำงานของน.ส.จุฑาภรณ์ แต่ก็ไม่พบตัว โดย น.ส.อรนุชผู้อำนวยการโรงเรียนให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า น.ส.จุฑาภรณ์เป็นครูอัตราจ้างสอนอยู่ชั้นอนุบาล 1 โดยเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 67 ที่ผ่านมาได้ยื่นใบลากิจมีกำหนด 3 วันซึ่งปกติก็ครบกำหนดวันลาแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นน.ส.จุฑาภรณ์มาทำงานแต่อย่างใด ซึ่งปกติตามระเบียบจะลากิจได้ปีละ 9 วัน นี่ก็หยุดไปแล้วถึง 6 วันก็ยังไม่เห็นครูป๊อปมาสอนหนังสือนักเรียนแต่อย่างใด

ด้านน.ส.จรินทร์พร พี่สาว น.ส.จุฑาภรณ์ กล่าวว่า น้องสาวเป็นครูอัตราจ้างสอนที่โรงเรียนนานกว่า 2 ปีแล้ว โดยเป็นเพื่อนสนิทกับน.ส.นุ๊กเกอร์ซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน ปกติน้องสาวหากไม่ได้ไปสอนหนังสือจะเลี้ยงลูกให้ตน เรื่องนี้ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทั้งคู่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัวน้องสาวมาหลายวันแล้ว ซึ่งตนเป็นห่วงมากยิ่งมีข่าวว่าเข้าไปเกี่ยวข้อง กับขบวนการโจรกรรมรถเพื่อส่งไปขายให้ประเทศเพื่อนบ้านด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นห่วงหนักขึ้น เกรงว่าน้องสาวจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากไปล่วงรู้ความลับของขบวนการนี้มากเกินไป จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวน้องสาวมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่กันตัวไว้เป็นพยานก่อนที่จะถูกฆ่าตัดตอนไปเสียก่อน