เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่แผนกเรือราชพิธี กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมครูฝึกฝีพายเรือพระราชพิธี ที่แผนกเรือราชพิธี กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ โดยได้กล่าวให้โอวาทครูฝึกฝีพายเรือพระราชพิธีว่า ภารกิจครั้งนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่งในการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 

ทั้งนี้ การอบรมครูฝึกฝีพายเป็นขั้นตอนแรก ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ถือได้ว่าครูฝึกทุกคนได้รับความไว้วางใจ ให้ปฏิบัติหน้าที่อันสำคัญยิ่ง ในการถ่ายทอดความรู้ รูปแบบและวิธีการปฏิบัติ จึงขอให้ตั้งใจเรียนรู้ ฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ นำไปฝึกกำลังพลประจำเรือ เพื่อให้การปฏิบัติในขบวนเรือพระราชพิธีเป็นไปด้วยความสง่างาม และสมพระเกียรติ นำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศของกองทัพเรือและประเทศชาติ จากข้อมูลที่ได้รับปัจจุบันในโลกนี้ มีขบวนเรือพระราชพิธี เหลือเพียงประเทศไทยประเทศเดียว จึงขอให้ทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด

โดย ผบ.ทร. กล่าวภายหลังการให้โอวาทครูฝึกฝีพายว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้ของพสกนิกรชาวไทย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาให้จัดพิธีถวายผ้าพระกฐินทางชลมารค โดยกองทัพเรือได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบภารกิจนี้ ทั้งนี้ กองทัพเรือได้เริ่มดำเนินการเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือการเตรียมการสำหรับฝีพายที่เริ่มในวันนี้ ส่วนที่ 2 คือการซ่อมทำเรือพระราชพิธี โดยร่วมกันระหว่างกรมศิลปากรกับอู่ธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน กองทัพเรือพร้อมถวายพระราชพิธีนี้ ให้สมพระเกียรติสูงสุดและให้เกิดความเรียบร้อย

สำหรับครั้งนี้ ใช้เรือพระราชพิธีจำนวน 52 ลำ และปีนี้นายท้ายเรือ พระราชพิธีทุกลำ เป็นนายทหารโรงเรียนทั้งสิ้น ซึ่งหมายถึงนายทหารที่จบจากโรงเรียนนายเรือ ส่วนอื่นๆ ก็ยังคงเป็นการรักษาประเพณีอันดีงาม ที่ประเทศไทยมีอยู่ให้ดำรงสืบต่อไป

ส่วนกาพย์เห่เรือที่จะใช้ในพระราชพิธีนี้แต่งใหม่ทั้งหมด เป็นการถวายพระเกียรติพระองค์ท่าน และผู้ประพันธ์ ยังคงเป็นครูทองย้อย คนเดิม โดยให้แนวทางไว้ว่า กาพย์เห่เรือจะเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้คนไทยได้รับทราบในรายละเอียด ที่พระองค์ได้ทรงสละทุนทรัพย์ และสละเรื่องต่างๆ ให้กับปวงชนชาวไทย ดังนั้นนอกจากเป็นการถวายพระเกียรติโดยทั่วไปแล้ว ในรายละเอียด ประชาชนจะได้ยินในการขับเสภาว่า ฝ่าพระบาททรงทำเรื่องใดบ้างให้กับประชาชนชาวไทย นับตั้งแต่ขึ้นครองราชย์ 

ส่วนการจัดการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า จะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ ร่วมกับกองทัพเรือ และคงต้องขอแจ้งกับประชาชนล่วงหน้า โดยจะดูแลให้กระทบกับประชาชนที่ใช้แม่น้ำเจ้าพระยาในการสัญจรให้น้อยที่สุด ส่วนเรื่องของการท่องเที่ยว ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในรายละเอียด แต่คงจะหมือนทุกครั้ง คือจะเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามความเหมาะสม.