เมื่อวันที่ 16 ก.พ. นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ปปง.) กล่าวว่า จากปัญหาร้องเรียนจากผู้ได้รับความเดือดร้อน กรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินอาคารชุดโครงการ Than Living หรือ แดนลิฟวิ่ง ถนนประชาอุทิศ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากเจ้าของโครงการอาคารชุด ถูกยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งการประชุมครั้งที่ 13 ที่ประชุมได้มีมติให้ สำนักงาน ปปง. เปิดโอกาสให้ผู้เสียหายเข้าขอคุ้มครองสิทธินั้น

นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับการประสานงานจาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นเอกสารลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 141 ตอนพิเศษ 45 ง ลงวันที่ 15 ก.พ.2567 เป็นประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่องให้ผู้มีส่วนได้เสียในโครงการก่อสร้างห้องชุดพักอาศัย ยื่นคำร้องเพื่อขอรับการคุ้มครองสิทธิ ซึ่งมีโครงการในเครือ 5 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการ แดน ลิฟวิ่ง รัชดา-ประชาอุทิศ, 2.โครงการ แดน ลิฟวิ่ง สาทร-เจริญราษฎร์, 3.โครงการ แดน ลิฟวิ่ง รัชดา-วงศ์สว่าง , 4. โครงการ มายส์สตอรี่ ลาดพร้าว 71 และ 5. โครงการ แดน ลิฟวิ่ง พระราม 9 แอร์พอร์ตลิงก์

ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา จึงเป็นการเปิดให้ผู้ทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดพักอาศัย ผู้ทำสัญญาซื้อขาย ผู้ทำสัญญาจ้างทำของ หรือผู้ทำสัญญาอื่นใดในโครงการดังกล่าว ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน มายื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย และจำนวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงาน ปปง. ภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับจากวันที่ 15 ก.พ.-15 มี.ค.2567 สามารถติดตามอ่านได้ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา

สำหรับการช่วยเหลือครั้งนี้เกิดจากผลของการพิจารณาของ คณะกรรมาธิการ ปปง. ที่มีนายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล เป็นประธาน กมธ.ปปง. ที่พยายามหาช่องทางในการช่วยเหลือผู้เสียหายที่มีอยู่กว่า 900 ราย ที่ตกเป็นเหยื่อในคดี เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม ต่อการเข้ายึดและอายัดทรัพย์ของ “ปปง.” เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีของบริษัทฯ ที่ถูกยึดและอายัดทรัพย์สินในเหตุผลทางคดีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งผู้เสียหายได้พยายามต่อสู้มากว่า 10 ปี (ตั้งแต่ปี 2557) และมีความเสียหายเบื้องต้นกว่า 400 ล้านบาท ที่ต้องการได้รับเงินคืนจากโครงการนี้ จนมาถึงมือ กมธ.ปปง. ที่ได้ให้ความเป็นธรรมเบื้องต้นจนสำเร็จ.