เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ก.พ. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุที่บ่อขยะ บ.หนองดู่  ต.ละหานนา อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น หลังจากเกิดเหตุ พบโครงกระดูกมนุษย์ ถูกเอามาทำลายเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา โดยได้พบกับนายเชิดชัย นาคุณ อายุ 55 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฯ ต.ละหานนา ลงพื้นที่ โดยยังมีเศษเส้นผมของผู้เสียชีวิตตกอยู่ที่พื้นเป็นกระจุก โดยมีลักษณะผมยาว สีดำ และยังมีขดลวดของยางรถยนต์อยู่ในที่เกิดเหตุใกล้กับศพ 

นายเชิดชัย กล่าวว่า คนที่มาพบศพครั้งแรกนั้นเป็นคนขับรถส่งน้ำที่มาจอดรถตรงนี้  ทีแรกคิดว่าเป็นสุนัข จึงมาแจ้งผู้ใหญ่บ้านและแจ้งตนเอง จากนั้นจึงได้พากันออกมาดูกับชาวบ้านก่อนจะแจ้งตำรวจ สภ.แวงน้อย ซึ่งมาถึงเห็นสภาพโดนไฟเผาไหม้เกรียมทั้งหมด ลักษณะเหลือแต่โครงกระดูกนอนขด และน่าจะเป็นการเผานั่งยาง จากยางรถกระบะ เมื่อศพยังไหม้ไม่หมด ด้วยน้ำหนักคนเอียงลงจากยาง แต่สภาพพื้นไหม้ไปทั้งหมดคาดว่าจะมีการเผาไหม้มาแล้วประมาณ 3 วัน และไม่มีการเผาในบริเวณอื่น 
 
“การเผาขยะนั้นไม่ได้มีการเผาทุกวัน จะเผาเฉพาะช่วงที่มีขยะเยอะ โดยรถขนขยะจะนำมาทิ้งที่บ่อขยะแห่งนี้ซึ่งเป็นขยะในพื้นที่ทั้ง ต.ละหานนา และในจุดนี้เป็นที่สาธารณะ ใครเข้ามาก็มาได้เพราะเป็นทางเทียวของชาวบ้านไปหาเห็ด ไปไร่ไปหา หรือมาหาเก็บของเก่าก็น่าจะมีเช่นกัน รวมทั้งถนนเส้นนี้ยังสามารถสัญจรออกผ่านอำเภอ โดยส่วนมากจะเป็นคนตำบลละหานนาที่รู้จักเส้นทางนี้ และคนต่างพื้นที่เองก็ไม่น่าจะกล้าเข้ามาในจุดนี้ เนื่องจากเป็นป่า ทั้งนี้เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นชุมชนจะต้องมีการป้องปรามระมัดระวังมากขึ้น เพราะเป็นเหตุการณ์แรกที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ และเป็นเรื่องการเผานั่งยาง ทั้งนี้โดยส่วนตัวไม่รู้จักคนส่งน้ำ แต่จะมีผู้ใหญ่บ้านที่อยู่บ้านเดียวกันกับคนส่งน้ำพามาพร้อมกับตำรวจลงพื้นที่ให้ข้อมูลร่วมกัน และโดยส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการเผานั่งยางแต่ไม่รู้ว่าเสียชีวิตที่ไหน อาจจะเสียชีวิตที่อื่นแล้วนำมาทิ้ง” นายเชิดชัย กล่าว

ต่อมาที่ สภ.แวงน้อย นายจักรินทร์ แทนรินทร์ อายุ 27 ปี คนขับรถส่งน้ำดื่มที่พบศพคนแรกเดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.สมมาตย์ มั่งไธสง ผกก.สภ.แวงน้อย เพื่อให้ปากคำ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการสอบสวนประมาณ 2 ชั่วโมงจึงปล่อยตัวกลับไป

นายจักรินทร์ กล่าวว่า เป็นลูกจ้างร้านขายน้ำ ทำหน้าที่ขับรถยนต์ส่งน้ำดื่มตามหมู่บ้านต่างๆ และจะแวะไปที่บ่อขยะทุกวัน เพื่อเช็กเงิน เช็กถังน้ำ ก่อนพบศพขณะที่ยืนอยู่บนรถ กำลังมัดเชือกรัดถังอยู่ ได้กลิ่นน้ำอบพัดเข้าจมูกชัดเจนมาก แล้วก็หายไป จึงหันไปตามกระแสลมก็เห็นเป็นโครงกระดูกอยู่ในลักษณะขดตัวถูกไฟไหม้ทั้งหมด ลักษณะเหมือนมีดวงวิญญาณสื่อสารว่าอยู่ตรงนี้ 

“ตนเองมีเซนส์ทางด้านนี้อยู่แล้ว วันที่เห็นศพ เมื่อจ้องดูดีๆ เห็นข้อศอก เห็นคาง ในใจคิดว่าเป็นสุนัข แต่ในใจยังพะวงว่าเป็นคน จึงรีบขับรถเข้าไปในหมู่บ้าน บอกชาวบ้านให้รู้และแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนสภาพศพที่พบนั้น มีสภาพนอนขด ตัวงอ ส่วนตัวเชื่อว่า เป็นคนถูกฆ่าเผานั่งยางแน่นอน แต่เป็นใครนั้น ไม่ทราบ ซึ่งหลังจากพบโครงกระดูกแล้ว นอนไม่ได้ ต้องไปอยู่กับแม่  และคิดว่า ลมกระโชกแรงพร้อมกลิ่นน้ำอบ น้ำหอมนั้น เชื่อว่า คนตายมาสื่อสารให้รู้ ให้บอกคนอื่น หรือแจ้งให้ญาติทราบว่า คนตายได้ตายแล้วอยู่ที่บ่อขยะ เช้ามาก็เลยไปหาอาจารย์ที่นับถือ ทำการจุดธูปบอกคนตายว่า บอกให้แล้วนะ จึงเกิดความสบายใจขึ้น และมาพบตำรวจ เพื่อให้ข้อมูลตามที่พบเห็น” นายจักรินทร์ กล่าว

ด้านนายเกษม พรมสุบรรณ อายุ 58 ปี พนักงานขับรถเก็บขยะ อบต.ละหานนา กล่าวว่า ทำหน้าที่ขับรถเก็บขยะในพื้นที่ตำบลละหานนาตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ และนำขยะไปทิ้งที่บ่อขยะ วันละ 2 ครั้งคือช่วงเวลา 10.00 น.และเวลา 12.00 น. วันเสาร์ และวันอาทิตย์ จะหยุดทำงาน บ่อขยะดังกล่าว จะไม่มีการเผาขยะเด็ดขาด เพราะนโยบายของ อบต.ห้ามเผาขยะ เพราะจะเกิดมลพิษ เมื่อขยะเยอะจะใช้รถไถกลบ ส่วนการเผาไหม้ในบ่อขยะที่เห็นนั้น เกิดจากการที่คนเก็บขยะเข้าไปเก็บของเก่าและขยะแล้วเผากันเอง กรณีพบโครงกระดูกมนุษย์ที่ถูกเผานั่งยาง ทีมเก็บขยะก็ไม่ทราบได้ว่า มีการเผานั่งยางกันเมื่อใด เพราะที่ผ่านมานำขยะไปเท ก็ไม่พบความผิดปกติหรือพบเห็นคนแปลกหน้าแต่อย่างใด

ขณะที่ พ.ต.อ.สมมาตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบ มีชาวบ้านขับรถผ่านแล้วแวะปัสสาวะที่บ่อขยะ จึงมองเห็นโครงกระดูกจึงแจ้งคนที่ผ่านไปมาในละแวกดังกล่าวให้ทราบ เมื่อมาตรวจที่พบโครงกระดูกนั้น ในเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุเพศได้ว่าชายหรือหญิง มีเพียงเส้นผมที่ยาว ที่ยังหลงเหลือบางส่วน ซึ่งอาจจะเป็นหญิงก็ได้ หรือสาวประเภทสองก็เป็นได้เช่นกัน แต่ในพื้นที่ สภ.แวงน้อย ตรวจสอบแล้ว ไม่มีการแจ้งคนหายแต่อย่างใด  
 
“หากใครมีญาติที่หายตัวไป หรือใครที่สงสัยว่าโครงกระดูกดังกล่าว เป็นญาติพี่น้องของตัวเอง ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แวงน้อยได้ ส่วนโครงกระดูกที่พบนั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมิตรภาพเมืองพล นำส่งที่นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ เพื่อให้แพทย์นิติเวช ตรวจพิสูจน์ว่าโครงกระดูกดังกล่าว เป็นชายหรือหญิง” พ.ต.อ.สมมาตย์ กล่าว