เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 19 ก.พ. ที่รัฐสภา นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษกลับบ้าน ว่า เหนื่อยใจ ถ้าจิตใจเป็นธรรมและเป็นกลางจริงๆ จากภาพที่ออกมา ตนและประชาชนทั่วไปดูก็รู้ว่านายทักษิณ ไม่ได้ป่วยจริง แต่การที่จะไปปรักปรำตรงนั้น กฎหมายบ้านเมืองบอกแล้วว่านายทักษิณมาตามกฎหมายทุกอย่าง แต่นั่นหมายถึงว่าคนที่บอกว่ามาตามกฎหมายทุกอย่างจะต้องถูกตรวจสอบ ที่ชัดๆ คือกรมราชทัณฑ์ และ รมว.ยุติธรรม จะต้องถูกตรวจสอบอย่างถึงที่สุด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนติดตามอยู่ ว่ากรณีเช่นนี้ การทำผิด ศาลตัดสินแล้วไม่ต้องจำคุกเลยแม้แต่วันเดียว อย่างนี้จะเป็นธรรมกับนักโทษในเรือนจำ กว่า 200,000 คน หรือไม่

“บางครั้งเขาไม่มีจะกิน ไปขโมยนมกระป๋องในห้าง ยังต้องถูกจำคุก แต่นี่นายทักษิณ มีคดีที่ศาลตัดสินแล้วว่าทุจริต แล้วหนีไปต่างประเทศ 16-17 ปี แต่กลับมาไม่ต้องติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว จึงขอถามประชาชนว่ากรณีของนายทักษิณ ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกหรือไม่ และถ้านายทักษิณยังทำตัวอยู่เหนือกฎหมายอย่างนี้ ผมเป็นห่วงบ้านเมือง ว่าความขัดแย้ง ความรุนแรงของประชาชนจะมากมายแค่ไหน ซึ่งเป็นห่วงจริงๆ” นายกิตติศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า จะถึงขั้นนองเลือดหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ตนบอกไม่ได้ แต่การกระทบกระทั่งกันเริ่มแล้ว ดังนั้นตนกล่าวหาได้เลยว่านายทักษิณ เป็นตัวปัญหาที่สร้างความแตกแยกให้กับคนไทยทั้งประเทศ ทั้งนี้ ในการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 ของวุฒิสภา ในวันที่ 25 มี.ค. นี้ เรื่องของนายทักษิณเป็นประเด็นที่ต้องอภิปรายแน่นอน แต่ต้องระมัดระวังเรื่องของกฎหมาย การหมิ่นประมาท แต่เมื่อทำหน้าที่แล้ว ก็ไม่ได้กังวล เพราะถ้าคนทำผิด โดยเฉพาะละเมิดกฎหมาย ถ้าไม่พูดถึงเลย เราก็ไม่ควรที่จะมาปฏิบัติหน้าที่อยู่ตรงนี้

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่นายทักษิณ อาจเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารประเทศด้วย นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยขาดคนดีแล้วหรือ ประเทศไทยถ้าไม่มีนายทักษิณอยู่ไม่ได้เลยใช่หรือไม่ และเห็นว่าคนไทยที่ไม่ใช่นายทักษิณ ต้องมาช่วยกันดูแลบ้านเมือง มาแก้ปัญหาของประเทศ แต่ถ้าเอานักโทษที่หนีคดีไป 10 กว่าปี กลับมาไม่ต้องติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว มาบริหารประเทศ ตนก็มองไม่ออกว่า ประเทศไทยจะเดินไปสู่จุดไหน

เมื่อถามย้ำว่า ไม่ใช่เพียงพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว แต่ยังมีพรรคร่วมรัฐบาลที่จะเข้าไปกราบนายทักษิณ และอาจทำให้นายทักษิณเป็นศูนย์รวมอำนาจได้ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่สามารถที่จะไปละเมิดความคิด ความรักของคนได้ โดยเฉพาะการเมือง ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร ใครจะไปไหว้ใครกราบใคร ก็เป็นสิทธิ แต่สำหรับ สว.กิตติศักดิ์ จะไหว้แต่คนดี มีคุณธรรมเท่านั้น

“ผมคิดว่าจากนี้ไป ประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีมากกว่า 2 คน เพราะยังมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยอีกคน ซึ่งถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์สำหรับประเทศไทย ผมคิดว่าสวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ ใครทำผิด คนอื่นไม่รู้ สวรรค์รู้ และตั้งแต่แรก ผมไม่ได้ให้ราคานายเศรษฐา ทวีสิน เพราะที่มาก็ทราบอยู่แล้วว่ามาเพราะส้มหล่น หรือถูกหวย ยิ่งเมื่อนายทักษิณมาอยู่ตรงนี้ นายเศรษฐา จะกลายเป็นดาวที่ไร้แสง” นายกิตติศักดิ์ กล่าว.