สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐวัย 78 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19เข็มสามหรือบูสเตอร์แล้วที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวก่อนรับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ก็คือจำต้องให้คนมาฉีดวัคซีนให้มากกว่านี้ ส่วนตัวเขาเองก็ไม่มีผลข้างเคียงอะไรจากการฉีดวัคซีนเข็มแรก หรือเข็มที่สอง
ประธานาธิบดีไบเดนได้รับวัคซีนเข็มแรกเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ปีที่แล้ว และเข็มที่สองในอีกสามสัปดาห์จากนั้นคือวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับภรรยาคือนางจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐ ซึ่งอยู่ในวัย 70 ปี แต่ในวันเดียวกันนี้เธอต้องไปสอนหนังสืออยู่ที่วิทยาลัยชุมชนนอร์ธเทิร์นเวอร์จิเนีย เพราะเป็นศาสตราจารย์ด้านภาษาอังกฤษ
ประธานาธิบดีไบเดนได้กล่าวไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หนึ่งวันหลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐรวมทั้งสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐอนุมัติรับรองการใช้วัคซีนเข็มสามเป็นบูสเตอร์เป็นวัคซีนไฟเซอร์ให้กับชาวอเมริกันอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปและผู้มีปัญหาด้านสุขภาพและความเสี่ยงจากหน้าที่การงาน โดยกล่าวติดตลกว่าเป็นการยากที่จะยอมรับว่าอายุ 65 ปีแล้ว แต่เขาก็จะได้รับวัคซีนเข็มสาม


ทั้งนี้สหรัฐอเมริกาเผชิญกับการแพร่ระบาดอีกครั้งช่วงฤดูร้อนมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นเพราะไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน โดยหน่วยงานสาธารณสุขชี้ถึงหลักฐานจากอิสราเอลและผลการวิจัยเบื้องต้นในสหรัฐระบุว่า การปกป้องผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อได้นั้น จะดีขึ้นก็ต่อเมื่อมีการฉีดวัคซีนเข็มสามของไฟเซอร์
นอกจากนั้นประธานาธิบดีไบเดนยังได้กล่าวอีกว่า สหรัฐจะหาซื้อวัคซีนอีก 500 ล้านโด๊สจากไฟเซอร์ เพื่อให้ได้ครบ 1 พันล้านโด๊สในปีหน้า เพื่อนำไปบริจาคให้กับประเทศอื่นๆ
ส่วนรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้วของโมเดอร์นา ซึ่งหน่วยงานสหรัฐยังไม่ได้พิจารณารับรองเป็นวัคซีนบูสเตอร์
ขณะนี้มีชาวอเมริกันแล้ว 2.66 ล้านคนแล้วได้รับวัคซีนเข็มสามจากไฟเซอร์นับตั้งแต่กลางเดือนส.ค.ที่ผ่านมา เป็นข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐ ส่วนที่ได้รับครบสองเข็มแล้วมี 100 ล้านคนเป็นวัคซีนไฟเซอร์
เครดิตภาพAP