เมื่อวันที่ 22 ก.พ. เบสท์-ทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่ สส.พรรคก้าวไกล เสนอซึ่งถูก “ตีตก” วานนี้ว่า

ต่อให้หลายพรรคการเมืองสนับสนุน พ.ร.บ.รับรองเพศสภาพ แต่ก็ย้อนแย้งกับการ “ตีตก” ในครั้งนี้ โดยเห็นว่า สภาควรรับหลักการร่างดังกล่าวไปก่อน เพราะอย่างน้อยยังสามารถพัฒนากฎหมายต่อได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ภาคประชาสังคมหรือประชาชนเป็นตัวประกัน สุดท้ายสภาและกรรมาธิการ ต้องทำงานกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อให้ พ.ร.บ.รับรองเพศสภาพ เกิดขึ้นได้จริง

“พรรคไทยสร้างไทย ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศไม่แพ้กับประเด็นอื่นๆ โดย พ.ร.บ.รับรองเพศสภาพ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พรรคไทยสร้างพร้อมผลักดันอย่างเต็มที่ โดยคณะทำงานยินดีอย่างยิ่งที่จะทำงานร่วมกับกรรมมาธิการ ภาคประชาสังคม และผู้แทนภาคประชาชน เพื่อพัฒนาร่างกฎหมายนี้ร่วมกัน” เบสท์ ระบุ

ส่วนกรณีที่ 3 สมาชิกผู้แทนราษฎรที่โหวต “ไม่เห็นด้วย” ถือเป็นการตระบัตสัตย์ต่อประชาชนที่เคยให้สัญญาไว้ว่า จะอยู่เคียงข้างประชาชน การลงมติแบบนี้ จึงเป็นการหักหลังประชาชนอีกครั้งหนึ่งซึ่งไม่สามารถยอมรับ และให้อภัยไม่ได้

ทั้งนี้ ในการอภิปรายสภาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายหนึ่ง ได้อภิปรายไว้ว่า คำนำหน้านามจะก่อให้เกิดความยากในการติดต่อหน่วยงานราชการ และการใช้งบประมาณในการเปลี่ยนข้อมูลที่ก่อให้เกิดความสับสนและใช้งบประมาณมากในการเปลี่ยนข้อมูล พร้อมย้ำว่า “ไม่ว่าจะมีคำนำหน้านามแบบไหน ควรภูมิใจในความเป็นตัวเอง” รวมถึงร้องเพลง “กะเทยประท้วง” ของ ปอยฝ้าย มาลัยพร ระหว่างการอภิปราย ซึ่งเป็นการนำอัตลักษณ์ของคนเพศหลากหลายมาล้อเลียนในสภา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และขาดการตระหนักรู้อย่างมาก

ท้ายที่สุดแล้ว เบสท์ สรุปว่า การที่ความเท่าเทียมทางเพศจะเกิดขึ้นได้ในไทย นอกจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมแล้ว พ.ร.บ.รับรองเพศสภาพ จะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญใหญ่ที่จะทำให้คนเพศหลากหลายในสังคมไทยได้สิทธิอย่างเท่าเทียม และประเทศไทยจะได้เป็นประเทศแห่งความเท่าเทียมอย่างชัดถ้อยชัดคำ รวมถึงพรรคไทยสร้างไทย จะยืนหยัดทำงานเพื่อความเท่าเทียมในทุกมิติ เพื่อประชาชนทุกคน